ความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์ ความเมื่อยล้า กับสุขภาวะในที่ทำงานของพนักงานสำนักงาน หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • สาวิตรี ทรัพย์เจริญกูล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ณัชชามน เปรมปลื้ม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

ความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์, ความเมื่อยล้า, สุขภาวะในที่ทำงาน, ทำงานของพนักงานสำนักงาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ความสัมพันธ์ของความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์และระดับความเมื่อยล้าของพนักงานสำนักงานในหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ พนักงานศูนย์บริการลูกค้า จำนวน 240 คน ซึ่งได้จากการเลือกตัวอย่างแบบตามสะดวก ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้ความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์การทำงานด้านภาระงานทางกายและภาระงานทางจิตใจอยู่ในระดับปานกลาง 2) กลุ่มตัวอย่างมีความเมื่อยล้าโดยรวมอยู่ในระดับสูง 3) การรับรู้ความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์ ความเมื่อยล้า มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสุขภาวะในที่ทำงานของพนักงานสำนักงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) แสดงให้เห็นว่าหากพนักงานมีการรับรู้และตระหนักถึงความเสี่ยงในการทำงานและสามารถบริหารจัดการความเมื่อยล้าได้ จะส่งผลดีต่อสุขภาพกายใจและคุณภาพชีวิตในการทำงานโดยรวม ข้อเสนอแนะจากการศึกษานี้คือองค์กรควรส่งเสริมการอบรมด้านการยศาสตร์ และจัดสิ่งแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal disorder: MSDs) รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมลดความเมื่อยล้าในช่วงเวลาทำงาน อันจะนำไปสู่การมีสุขภาวะในการทำงานที่ดีและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

ปรียานุช ประจิตร์ และ จุฑามาศ ทวีไพบูลย์วงษ์. (2563). อิทธิพลของสภาพแวดล้อมในการทำงานและ

แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของพนักงานที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน: กรณีศึกษา บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ จังหวัดชลบุรี. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยบูรพา.

รุจจิรัตน์ พงศ์ภัทรโภคิน. (2566). การศึกษาความชุกของความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ

และปารประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยแรงกายของพยาบาลหอผู้ป่วยวิกฤตผู้ใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

เสนาะ ติเยาว์. (2520). การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

อุดม พินธุรักษ์. (2553). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับ

ประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี.

คอลิฟ ปะหยังหลี. (2559). ความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและ

กระดูกของทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์.

นิภาพร คำหลอม. (2563). การป้องกันและควบคุมความล้าจากการทำงานตามหลักการยศาสตร์.

หลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

ลัดดาวัลย์ กมลสรวงเกษม. (2558). การศึกษาข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นอยู่ที่ดี ความพึงพอใจในงาน

และความผูกพันของพนักงาน ที่มีผลต่อประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน ของพนักงานบริษัท เครือข่ายการสื่อสารแห่งหนึ่ง. (วิทยานิพนธ์). สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

สุคนธ์ ขาวกริบ. (2567). ความเสี่ยงทางการยศาสตร์ในบุคลากรที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน

ของวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์). สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ, วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม.

กิตติ อินทรานนท. (2548). ภาระงานและการวัด การยศาสตร์. (หน้า 244-250).

พรรค วัฒนะโภคา และ ไกรวิทย ทับธนะ. (2553). ความล้าที่เกิดจากลักษณะของงานซ่อมบำรุงอากาศ

ยาน. (โครงงานหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต). สาขาวิชาเทคโนโลยีการบิน คณะวิศวกรรมศาสตร์.

นันทพร ภัทรพุทธ. (2558). โครงการ การพัฒนารูปแบบการพักเพื่อลดความเมื่อยล้าของพนักงานขับรถ

ขนส่งสารเคมีอันตราย จ. ชลบุรี. มหาวิทยาลัยบูรพา.

บรรพต โลหะพูนตระกูล. (2561). การพัฒนาเครื่องมือประเมินความเสี่ยงตามหลักการยศาสตร์สำหรับ

พนักงานขับรถ กรณีศึกษาพนักงานขับรถตู้. (วิทยานิพนธ์). สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการและระบบ, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ระวีพรรณ สุนันต๊ะ, น้ำเงิน จันทรมณี, และ ทวีวรรณ ศรีสุขคำ. (2565, กรกฎาคม – ธันวาคม). ปัจจัย

ทำนายที่ส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานด้านคอมพิวเตอร์ของบุคคลากร มหาวิทยาลัยพะเยา. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี, 20(2), 56–72.

กสิณา เกษโกวิท. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเมื่อยล้าส่วนหลังของพนักงานฝ่ายปั๊มขึ้นรูป

ร้อนของการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์. (วิทยานิพนธ์). คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.

วัลย์ธิดา ยานนาวา. (2564). ปัจจัยกำหนดระดับความสุขคนทำงานในองค์กร. (วิทยานิพนธ์คณะ

เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ณัฐพล หลงสวาสดิ์. (2567). สุขภาวะในที่ทำงานของบุคลากรด้านสุขภาพ: กรณีศึกษาโรงพยาบาล

มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง. วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ, 16(1).

อังคณา ธนาสุภาพพันธุ์. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความอยู่ดีมีสุขของพนักงานในเขตกรุงเทพมหานคร.

(วิทยานิพนธ์). คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.

อลิษา ศรีคราม. (2559). สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ส่งผลต่อความสุขในการทำงาน ของพนักงาน

สายปฏิบัติการฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. (การศึกษาค้นคว้าอิสระคณะบริหารธุรกิจ). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน.

อโณทัย เฉยดิษฐ. (2558). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขในการทำงานของพนักงานบริษัท AAA. (ปริญญา

บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). สาขาวิชาบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร, วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์,

มหาวิทยาลัยบูรพา. สืบค้นเมื่อจาก http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/57750061.pdf

ฐิรชัย พงษ์ยันตรชัย. (2549). การวิเคราะห์เชิงปริมาณทางจิตวิทยาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร:

สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Bakker, A. B., & Demerouti, E. (2017). Job demands–resources theory: Taking stock and

looking forward. Journal of Occupational Health Psychology, 22(3), 273–285.

Demerouti, E., Bakker, A. B., Nachreiner, F., & Schaufeli, W. B. (2001).

The job demands-resources model of burnout. Journal of Applied Psychology / related, etc.

Juster, R. P., McEwen, B. S., & Lupien, S. J. (2020). Allostatic load biomarkers of

chronic stress and impact on health and cognition. Neuroscience & Biobehavioral Reviews, 115, 104–115.

Lesener, T., Gusy, B., & Wolter, C. (2019). The job demands–resources model: A meta-

analytic review of longitudinal studies. Work & Stress, 33(1), 76–103.

McEwen, B. S., & Stellar, E. (2021). Stress and the individual: Mechanisms leading to

disease. Archives of Internal Medicine, 181(3), 226–232.

Pehlevan, Z., Karagülle, M., & Aydemir, A. (2024). The effectiveness of workplace

exercise

programs and ergonomics education in reducing musculoskeletal pain among factory workers. Occupational Medicine & Health Affairs, 12(1), 15–22.

https://doi.org/10.4172/2329-6879.1000423

Schaufeli, W. B. (2017). Applying the Job Demands-Resources model: A ‘how to’ guide.

Supriyadi, T., Setyowati, D., & Mahendra, A. (2024). Digital fatigue and its impact on

workplace well-being in remote workers: A mixed-methods study. Journal of

Occupational Health Psychology, 29(2), 112– 25.

https://doi.org/10.1037/ocp0000359

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-27

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย