ผลของการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการต่อสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์ กับสุขภาพของนักเรียนมัธยมศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองขั้นต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการต่อสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับสุขภาพของนักเรียนมัธยมศึกษาก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 80 คน โรงเรียนอุดรพัฒนาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายสำหรับเด็กและเยาวชน อายุ 7-18 ปี ของกรมพลศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานโดยใช้การทดสอบ paired t-test ผลการศึกษา พบว่า เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการ กลุ่มตัวอย่างมีความอ่อนตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและท้อง และความอดทนของระบบหัวใจ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการมีศักยภาพในการส่งเสริมสมรรถภาพทางกายของนักเรียนอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ กิจกรรมลักษณะนี้สามารถประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมสุขภาพ กระตุ้นแรงจูงใจในการออกกำลังกาย และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานและมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทั้งนี้งานวิจัยเสนอแนะให้สถานศึกษาส่งเสริมและจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมนันทนาการอย่างต่อเนื่องในหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและใจของนักเรียนในระยะยาว
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมพลศึกษา. (2562). คู่มือแบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายของเด็ก เยาวชน และประชาชนไทย. สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา.
กรมอนามัย. (2567). รายงานพฤติกรรมสุขภาพเด็กและเยาวชนไทย ปี 2567. กระทรวงสาธารณสุข.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2566). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2566). สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.
จิรัชยา ศรีบุญเรือง. (2566). ผลของการจัดกิจกรรมนันทนาการที่มีต่อสมรรถภาพทางกายของนักเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 21(1), 55–66.
วรรณิภา เสริมสุข. (2566). ผลของกิจกรรมนันทนาการต่อสมรรถภาพทางกายและแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม, 14(2), 55–68.
วิจิตรา คำแก้ว. (2568). สมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับสุขภาพของนักเรียนไทย: แนวทางการพัฒนาและประเมินผล. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬา, 12(1), 23–38.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2567). รายงานสถานการณ์สุขภาพเด็กไทย ปี 2567. สสส.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). สำรวจภาวะสุขภาพและกิจกรรมทางกายของประชากร ปี 2567. สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
สุธาทิพย์ ขันตีแก้ว. (2567). การประยุกต์ใช้เกมนันทนาการในชั้นเรียนพลศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารพลศึกษาและสุขภาพ, 20(1), 77–92.
สุพรรษา แสงสุริยา. (2568). การใช้เกมการละเล่นในกิจกรรมพลศึกษาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารครุศาสตร์ศึกษา, 33(2), 88–101.
Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. New York: W.H. Freeman.
Deci, E. L., & Ryan, R. M. (2000). The “what” and “why” of goal pursuits: Human needs and the self-determination of behavior. Psychological Inquiry, 11(4), 227–268. https://doi.org/10.1207
Lee, J., Kim, Y., & Park, S. (2024). The effects of recreational group activities on physical fitness and mental well-being among adolescents. International Journal of Adolescent Health and Physical Activity, 18(2), 101–114. https://doi.org/10.1016/ijahpa.2024.02.004
McKenzie, T. L., & Lounsbery, M. A. F. (2023). Physical education: Essential components and policy implications. Journal of Physical Activity and Health, 20(1), 12–20. https://doi.org/10.1123
McLennan, N., & Thompson, J. (2023). Game-based approaches in physical education: Enhancing motivation and participation. Journal of Physical Education and Wellbeing, 17(3), 145–159. https://doi.org/10.10
Ramos, F., Gutierrez, M., & López, D. (2024). Effects of recreational games on physical fitness and classroom engagement in middle school students. International Journal of School Health and Fitness, 12(1), 25–38. https://doi.org/10.1080/ijshf.2024.01.004