การพัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิงร่วมกับแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงาสำหรับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5
คำสำคัญ:
แสงและเงา,อีเลิร์นนิง, แบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง , การศึกษาทางฟิสิกส์บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพของบทเรียน (E1/E2) ตามเกณฑ์ 80/80 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบทเรียนเรื่อง แสงและเงา กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนวิชาฟิสิกส์ โรงเรียนเสริมงามวิทยาคม ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 20 คน การวิเคราะห์ผล จากแบบทดสอบก่อนเรียน ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน และแบบสำรวจความพึงพอใจที่มีต่อการใช้บทเรียน จากการวิจัยพบว่า (1) ค่าประสิทธิภาพของบทเรียนมีค่าเท่ากับ 84.50/80.50 (2) นักเรียนส่วนใหญ่มีค่าความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในกลุ่ม Medium gain (3) ความพึงพอใจต่อบทเรียนอยู่ในระดับพึงพอใจมาก โดยมีค่าความพึงพอใจในเชิงบวกที่ระดับคะแนนเฉลี่ย 4.07 และค่าความพึงพอใจในเชิงลบที่ระดับคะแนนเฉลี่ย 1.44 แสดงให้เห็นว่าบทเรียนอีเลิร์นนิงร่วมกับแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริง เรื่อง แสงและเงา นี้มีความเหมาะสมสำหรับนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอนของนักเรียนที่เรียนวิชาฟิสิกส์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เอกสารอ้างอิง
ญดา ลือสัตย์. (2558). ผลการเรียนด้วยอีเลิร์นนิงโดยใช้กิจกรรมเรียนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7E วิชาชีววิทยาที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. Veridian E-Journal, Silpakorn University สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 8(2), 2369-2384.
พฤทธิวรรณ ช่วงพิทักษ์, ฐิยาพร กันตาธนวัฒน์ และปริยาภรณ์ ตั้งคุณานันต์. (2560). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทางร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุกด้วยบทเรียนอีเลิร์นนิ่ง เรื่องการนําเสนอ ข้อค้นพบด้วยสื่อเทคโนโลยีระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 16(2), 89-96.
ศตวรรษ เหล่าประเสริฐ และณัฐพล รำไพ. (2565). การพัฒนาบทเรียนอีเลิร์นนิงแบบผสมผสาน วิชาฟิสิกส์ เรื่องงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 5(13), 127–140.
สุดารัตน์ ธีรพิสิฐ, สาวิตรี ชามทอง และสุดารัตน์ สุขบรรจง. (2564). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนการสอนออนไลน์รายวิชาฟิสิกส์ของนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, 32(2), 60–70.
หนึ่งฤทัย คำหงษา และสิริพัชร์ เจษฏาวิโรจน์. (2567). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่สอนโดยใช้แบบฝึกทักษะกับการสอนแบบปกติ. วารสารวิชาการครุศาสตร์สวนสุนันทา, 8(2), 75-86.
อาจารีย์ ทองอ่อน และเพ็ญศรี ประมุขกุล. (2024). การออกแบบพัฒนาแบบจำลองโต้ตอบเสมือนจริงเรื่องแสงและเงาเพื่อพัฒนาผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5. Journal of Science and Technology Phetchabun Rajabhat University, 4(2), 93-101.
Marshman, E., DeVore, S., & Singh, C. (2020). A holistic framework to help students learn effectively from research-validated self-paced learning tools. Physical Review Physics Education Research, 16, 20108-1-17.
Richard R. H.(1998). Interactive-engagement versus traditional methods: A six-thousand-student survey of mechanics test data for introductory physics courses. American Association of Physics Teachers, 66(1), 64-74.
Sarabi, M. K., & Abdul G. K. (2018). Student Perception on Nature of Subjects: Impact on Difficulties in Learning High School Physics, Chemistry and Biology. Innovations and Researches in Education, 8(1). 42-55.
Wangchuk, D., Wangdi, D., Tshomo, S., & Zangmo, J. (2023). Exploring Students’ Perceived Difficulties of Learning Physics. Educational Innovation and Practice, 6, 1-11.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการศึกษาและนวัตกรรมพัฒนาการเรียนรู้

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร