ปัจจัยเชิงเหตุที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธของนิสิตระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คำสำคัญ:
สุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธ, แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์, การปฏิบัติธรรม, ความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธของนิสิตระดับปริญญา 2. เปรียบเทียบปัจจัยเชิงเหตุที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธ และ 3. ตรวจสอบรูปแบบการพัฒนาสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ได้แก่ การวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 327 รูป/คน และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยเทคนิควิธีสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 รูป/คน ผลการวิจัยเชิงปริมาณพบว่า นิสิตมีระดับสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ยรวม 3.88) โดยมิติที่สูงที่สุด คือ สุขภาวะทางสังคม (ค่าเฉลี่ย 3.93) และต่ำที่สุด คือ สุขภาวะทางปัญญา (ค่าเฉลี่ย 3.85) ขณะเดียวกัน ระดับความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใน 6 มิติ ก็อยู่ในระดับมากเช่นกัน (ค่าเฉลี่ยรวม 4.00) โดยเฉพาะมิติการเติบโตส่วนบุคคลและการมีจุดมุ่งหมายในชีวิต ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (ค่าเฉลี่ย 4.05) การเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม พบว่า นิสิตไทยมีระดับสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธสูงกว่านิสิตต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และนิสิตชั้นปีสูงมีระดับสุขภาวะสูงกว่านิสิตชั้นปีหนึ่งอย่างชัดเจน การวิเคราะห์เชิงสาเหตุชี้ให้เห็นว่า “แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์” และ “พื้นฐานการปฏิบัติธรรม” เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถทำนายสุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธได้อย่างมีนัยสำคัญ การพยากรณ์โดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า สุขภาวะองค์รวมเชิงพุทธ โดยภาพรวมพบตัวแปรทำนายสำคัญ 2 ตัว ได้แก่ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ น้ำหนักทำนาย (β = 0.541) และพื้นฐานการปฏิบัติธรรม (β = 0.375) เปอร์เซ็นต์การทำนาย 73.5% สำหรับผลการตรวจสอบรูปแบบ BAH-MCU Model โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า เป็นรูปแบบที่มีความเหมาะสม ชัดเจน และสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง โดยเป็นการบูรณาการหลักพุทธธรรม เช่น ไตรสิกขา และภาวนา 4 ร่วมกับแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวก เพื่อส่งเสริมสุขภาวะองค์รวมใน 4 มิติ ได้แก่ สุขภาวะทางกาย สังคม จิต และปัญญา อย่างสมดุลและยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). (2559). พุทธธรรม: ฉบับปรับขยาย (พิมพ์ครั้งที่ 45). กรุงเทพฯ: สหธรรมิก.
พระเพชรเกสร ชมภูบุตร, ประยูร สุยะใจ และกมลาศ ภูวชนาธิพงศ์. (2567). แนวทางการเสริมสร้างสุขภาวะตามหลักพุทธจิตวิทยา สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 9(2), 1781-1792. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/view/274926.
พระมหาทวีศักดิ์ รัตนกมล และธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน. (2559). สุขภาพจิตแนวพุทธของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 4(2), 232–244.
ภมรพรรณ์ ยุระยาตร์, ฐาปนี สีเฉลียว และกฤตยชญ์ ไชยคำภา. (2565). การศึกษาสุขภาวะทางจิตของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 16(2), 192-208.
วุฒิชัย อุทธา, สิริวัฒน์ ศรีเครือดง และกมลาศ ภูวชนาธิพงศ์. (2567). โมเดลสมการโครงสร้างของการจัดการสุขภาวะพระสงฆ์ไทยวิถีใหม่ตามแนวพุทธจิตวิทยา. วารสารพุทธจิตวิทยา, 9(2), 283–300.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2562). พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2566). ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง (พิมพ์ครั้งที่ 144). นครปฐม: วัดญาณเวศกวัน.
Bandura, A. (1977). Social learning theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. New York, NY: W.H. Freeman.
Best, J. W., & Kahn, J. V. (2006). Research in education (10th ed.). Boston, MA: Pearson Education.
Blumer, H. (1969). Symbolic interactionism: Perspective and method. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Creswell, J. W. (2013). Research design: Qualitative, quantitative, and mixed methods approach (4th ed.). SAGE Publications.
Eisner, E. W. (2017). The enlightened eye: Qualitative inquiry and the enhancement of educational practice (2nd ed.). Teachers College Press.
Reangsing, C., Moonpanane, K., Pittchalard, K., & Schneider, J. K. (2024). Efficacy of a Mind Space Application intervention on psychological outcomes in Thai university students with depression: A pilot randomized controlled trial. Journal of Affective Disorders, 362, 317–322. https://doi.org/10.1016/j.jad.2024.07.006.
Bukhari, S. A. R. (2021). Sample Size Determination Using Krejcie and Morgan Table. Research Gate. http://dx.doi.org/10.13140/RG.2.2.11445.19687.