การพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม

ผู้แต่ง

  • ภูมินทร์ แมดมิ่งเหง้า คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
  • นาตยา หกพันนา คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
  • ณิชาภาท์ กันขุนทศ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์

คำสำคัญ:

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3, แบบฝึกหัดร่วมกับเกม, ทักษะการเขียนสะกดคำ

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการเขียนสะกดคำ โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปี การศึกษา 2567 ของโรงเรียนห้วยตูมวิทยาคาร อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมจำนวนนักเรียน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม จำนวน 6 แผน ใช้เวลา แผนละ 1 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการเขียนสะกดคำ เป็นแบบทคสอบแบบเขียนตามคำบอก จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ The Wilcoxon Signed Ranks Test ) ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม พบว่า หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม ชั้นประถมศึกษา 3 โรงเรียนห้วยตูมวิทยาคาร อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีคะแนนเฉลี่ยทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด เท่ากับ 12.72 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.49 และค่าร้อยละ เท่ากับ 63.61 ค่าร้อยละหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกมสูงขึ้นร้อยละ 12.27 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม พบว่า หลังการใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทักษะการเขียนสะกดคำ สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมแบบฝึกทักษะร่วมกับเกม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา นาคสกุล และคณะ. (2545). บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 1 : ระบบเสียง อักษรไทย การอ่านคำและการเขียนสะกดคำ. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

กระทรวงศึกษาธิการ.(2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้า. และพัสดุภัณฑ์.

ขนิษฐา แสงภักดี. (2540). การใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการเขียนสรุปความจากบทร้อยแก้วพัฒนากูล จังหวัดสระบุรี. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.

คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2536). คู่มือคณะกรรมการการประถมศึกษา. จังหวัดและอําเภอ.กรุงเทพฯ : คุรุสภา.

ฐะปะนีย์ นาครทรรพ. (2545). การสอนภาษาไทย ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์. ส่งเสริมวิชาการ.

ทิศนา แขมมณี. (2550). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9.กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.

วัฒนา เสนนอก. (2550). การใช้แบบฝึกหัดเสริมทักษะทางภาษาเรื่อง การเขียนสะกดค้าตามมาตรา. ตัวสะกด. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ศศิธร สุทธิแพทย์. (2518). แบบฝึกหัดสําหรับสอนเรื่องวลีในภาษาไทยระดับประกาศนียบัตร. วิชาการศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์.

ศรีจันทร์ วิชาตรง.( 2543). การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในการเขียนภาษาไทย ของนักศึกษาสถาบัน ราชภัฏพระนคร ปีการศึกษา 2540. รายงานการวิจัย. สถาบันราชภัฏพระนคร.

สุนันทา สุนทรประเสริฐ (2534). ปฏิรูปการเรียนรู้สู่การพัฒนาวิชาชีพครู. นครสวรรค์: ริมปิงการพิมพ์.

Fuszard Barbara, Lowenstein Arlene J., & Bradshaw Martha J. (2001). Fuszard's innovative teaching strategies in nursing (3 ed.). Gaithersburg, MD: Aspen Publishers.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25

รูปแบบการอ้างอิง

แมดมิ่งเหง้า ภ., หกพันนา น., & กันขุนทศ ณ. (2025). การพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำที่ตรงตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเกม. Journal of Creative Education Research and Development, 3(1), 8–16. สืบค้น จาก https://so15.tci-thaijo.org/index.php/JCERD/article/view/2650