การดำรงอยู่ของกว่างชนผ่านการประกอบสร้างภาพตัวแทนภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมในพื้นที่ภาคเหนือของไทย
คำสำคัญ:
กว่างชน, การเปลี่ยนแปลงทางสังคม, วัฒนธรรมท้องถิ่น, การสร้างภาพตัวแทนบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอให้เห็นว่าวัฒนธรรมการชนกว่างสามารถดำรงอยู่ผ่านการประกอบสร้างภาพตัวแทนภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรมในพื้นที่ภาคเหนือได้อย่างไร โดยนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์ จากข้อมูลการสังเกตการณ์ การสัมภาษณ์ของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการชนกว่างในเขตพื้นที่ภาคเหนือ
ผลการศึกษาพบว่า การละเล่นชนกว่างในสังคมภาคเหนือที่ผ่านมาได้รับผลกระทบและถูกลดทอนความสำคัญลง จากเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นความทันสมัยและการพัฒนาท่องเที่ยวกระแสหลักที่เริ่มปรากฏในช่วงปลายทศวรรษ 2480 แต่เมื่อเข้าสู่ในช่วงทศวรรษที่ 2530 กลับพบว่า 1) กระแสของการโหยหาอดีตจากท้องถิ่น และ 2) รูปแบบของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปได้มีส่วนทำให้การเล่นชนกว่างกลับมาเป็นที่นิยมของผู้คนหลากหลายวัยทางภาคเหนือในฐานะภาพตัวแทนของ 1) การละเล่นพื้นบ้านท้องถิ่นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาที่ควรอนุรักษ์ 2) สัญลักษณ์ตัวแทนความเป็นนักสู้ของล้านนา 3) แมลงเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้และนำการท่องเที่ยวเข้ามาในท้องถิ่น และจากความนิยมในการละเล่นชนกว่างในปัจจุบันก็ยังพบว่ามีการหาแนวทางในการส่งเสริมการละเล่นชนกว่างให้สามารถดำรงอยู่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม ผ่านการสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมไม่ว่าจะเป็น 1) การผลักดันให้การละเล่นชนกว่างกลายเป็นประเพณีสำคัญในท้องถิ่นภาคเหนือ โดยการจัดงานเทศกาลกว่างชนขึ้นทุกปี ในแต่ละจังหวัดทางภาคเหนือโดยการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ 2) การจัดกิจกรรมชนกว่างสัญจรของกลุ่มคนที่ชื่นชอบกว่างชนในแต่ละจังหวัด และ 3) การเผยแพร่ความรู้เรื่องกว่างชน แนวทางการอนุรักษ์ และการส่งเสริมเพาะเลี้ยงกว่างเป็นอาชีพ เป็นต้น จากการศึกษาครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของวิธีคิด ในการสร้างการสื่อความหมายและพลวัตของประเพณีที่ไม่ได้หยุดนิ่ง ซึ่งสามารถถูกต่อรอง ช่วงชิงและปรับเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขของความสัมพันธ์ที่หลากหลายได้ตลอดเวลา
เอกสารอ้างอิง
ธเนศวร์ เจริญเมือง. (2544). คนเมือง. เชียงใหม่: โครงการศึกษาการปกครองท้องถิ่น คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เผดิมศิลป์ รามศิริ. (2548). ชีววิทยาของกว่างชน กว่างซางเหนือและกว่างสามเขาเขาใหญ่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พัฒนากิติอาษา. (2546). ท้องถิ่นนิยม. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์. (2558). กําเนิด “ประเทศไทย” ภายใต้เผด็จการ: น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวกกับนัยยะซ่อนเร้นในยุคจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์. กรุงเทพฯ: มติชน.
รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์. (2546). ทุนวัฒนธรรม วัฒนธรรมในระบบทุนนิยมโลก เล่มที่หนึ่ง.กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน.
สินทรัพย์ ยืนยาว. (2560). ประเพณีประดิษฐ์ในชุมชนอีสานลุ่มน้ำโขง. ขอนแก่น : คลังนานาวิทยา.
สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช. (2561). ด้วงกว่าง ด้วงแรด และด้วงมูลสัตว์ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์.กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยการ อนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช.
อัศวรักษ์ จันประเทศ. (2563). พนันชนกว่าง จริยวัตรทรงโปรดของเจ้าดารารัศมีเพื่อคลายเหงาในพระทัย. ออนไลน์ สืบค้นจาก https://www.Back To The History:ย้อนรำลึกประวัติศาสตร์. No.309
Clifford Geertz. (1958). “Deep play: Notes on the Balinese Cockfight”. The Interpretation of Cultures. Journal of the American Academy of Arts and Sciences, 101(1), 1-38.
Hall, S. (Ed.). (1997). Representation:cultural representations and signifying practices. London: Sage in association with the Open University.
Leksawasdi. P., and P. Jirada. (1983). Use of Insects and Food in Northern Thailand. Faculty of Science. Chiang Mai University, Thailand.
Lefebvre, Henri. (1976). The Production of Space. Translated by Donald Nicholson-Smith. Oxford: Blackwell.
Thongchai Winichakul. (1994). Siam mapped: a history of the geo-body of a nation. Honolulu: University of Hawaii Press; Chiang Mai: Silkworm Books.[In locality, there is folklore and play: study folklore in the context of Thai society. Bangkok: Matichon.

ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร