ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
คำสำคัญ:
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษ, คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, ปรับเป็นพินัยบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งการเปรียบเทียบโทษทางปกครองกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565
ผลการศึกษา พบว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีบทบัญญัติให้ศาลที่พิจารณาคดีกำหนดค่าสินไหมทดแทนและค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษได้ตามสมควรแต่ไม่เกิน 2 เท่าของค่าเสียหายที่แท้จริง และสามารถกำหนดโทษทางปกครองเป็นค่าปรับได้ไม่เกินหนึ่งล้านบาทจนถึงห้าล้านบาทแล้วแต่กรณีซึ่งโทษที่กำหนดไว้ดังกล่าวเป็นอัตราที่ไม่สมเหตุสมผลเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหาย สภาพเศรษฐกิจ สังคม และอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน ทำให้การลงโทษไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการกำหนดค่าสินไหมทดแทน ขณะที่ในต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีอัตราโทษสูงกว่าประเทศไทยมากหากมีการแก้ไขอัตราโทษของค่าสินไหมทดแทนเพื่อการลงโทษและโทษปรับทางปกครอง จะทำให้เกิดการป้องปรามไม่ให้กระทำความผิด หรือเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะผู้กระทำความผิดที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจอาจไม่รู้สึกยำเกรงต่อกฎหมายและโทษ ซึ่งการปรับปรุงโทษจะใช้แนวคิดและหลักการที่ปรากฎในพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง
เอกสารอ้างอิง
กมล สนธิเกษตริน. (2543). ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: นิติบรรณการ.
กฤษณา พิษณุโกศล. (2531). ค่าเสียหายในเชิงลงโทษ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
คัมภีร์ แก้วเจริญ. ค่าเสียหายในคดีละเมิด. วารสารกฎหมายคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 7(3), 26-27.
จิตติ ติงศภัทิย์. (2522). ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมูลแห่งหนี้. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์.
จี๊ด เศรษฐบุตร. (2553). หลักกฎหมายแพ่งลักษณะละเมิด (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ. (2560). กฎหมายอาญาภาคทั่วไป (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ปริญญาวัน ชมเสวก. (2550). ค่าเสียหายเชิงลงโทษในคดีละเมิด (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562, 2562
พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565, 2565
ไพจิตร ปุญญพันธุ์. (2551). คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะละเมิด (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: นิติบรรณการ.
วนิดา แสงสารพันธ์. (2551). “สิทธิส่วนบุคคล” กับความคุ้มครองตามกฎหมาย. นักบริหาร, 28(2), 78-81.
วารี นาสกุล. (2559). คำอธิบายกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ ละเมิด จัดการงานนอกสั่ง และลาภมิควรได้. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: เนติบัณฑิตยสภา.
สุษม ศุภนิต. (2546). คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยลักษณะละเมิด (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: นิติบรรณการ.
Buckland, W. W. (1932). A text-book of Roman law from Augustus to Justinian. London: Cambridge University Press.
Guzelian, C. P. (2005). The Kindynamic Theory of Tort. Indiana Law Journal, (80), 987-1036.
Mc Cormick, C. T. (1980). Damages. Minnesota: West Publishing.
Mc Gregor, H. (1980). Mc Gregor on Damages (The Common Law Library) No. 9 (14th ed.). London: Sweet & Maxwell Ltd.
Mc Neill, W. H. (1963). The Rise of the West: A History of the Human Community. London: University of Chicago Press.
Perry, R. (2019). From Fault-Based to Strict Liability: A Case Study of an Overpraised Reform. Wake Forest Law Review, (53), 383-419.
Prosser, W. L. (1978). Law of Trots. Minnesota: West Publishing.
Simon, K. W. (2002). Dimension of Negligence in Criminal and Tort Law. Theoretical in Law, 3(2), 4-6.
Street, H. (1962). Principles of the Law of Damages. London: Sweet & Maxwell Ltd.
Thai PBS. (2567, 19 มีนาคม). เร่งตรวจสอบ GOD user อ้างขายข้อมูล สธ. หลุด 2.2 ล้านชื่อ. สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/338178

ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร