การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการในการพัฒนาการบริหารงานประกันคุณภาพ การศึกษาภายในแนวใหม่สู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ ของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การประกันคุณภาพการศึกษาภายในแนวใหม่, สภาพปัจจุบัน, ปัญหา, ความต้องการบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการในการพัฒนา การบริหารงานประกันคุณภาพการศึกษาภายในแนวใหม่สู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ ของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษาครูและบุคลากรทางศึกษา รวมจำนวน 253 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) และแบบสอบถามแบบปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบันในการดำเนินการบริหารงานประกันคุณภาพการศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 2) ปัญหาในการการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา พบว่า มีประเด็นที่ควรพัฒนา 3 ประการ คือ (1) มีการประชุมคณะกรรมการ เพื่อกำหนดเครื่องมือ หลักเกณฑ์และแบบประเมินที่มีความสอดคล้องกับคุณลักษณะของผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน (2) มีการนำแผนงาน โครงการ กิจกรรมสู่การปฏิบัติงานตามกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ และ (3) มีการจัดเวทีนำเสนอเพื่อรายงานผลการดำเนินงานที่ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบ 3) ความต้องการในการพัฒนาการบริหารงานประกันคุณภาพการศึกษา พบว่า มีความต้องการในด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและด้านการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา โดยต้องการให้มีการวางแผนการบริหารทรัพยากรบุคคล การกำหนดคุณลักษณะ ทิศทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดแนวทางในการพัฒนาการประกันคุณภาพคุณภาพการศึกษาให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553. กรุงเทพ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
นุจนาจ ขุนาพรม. (2561). แนวทางการดำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารการบริหารและนิเทศการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 9(1), 121-132.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ สุวีริยาสาส์น.
มยุรี วรวรรณ. (2563). แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม.การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย. (2564). รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR) ปีการศึกษา 2563. เชียงใหม่: โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย.
ลดาวัลย์ ตั้งมั่น. (2561). การดำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
วันทนา เนื้องน้อย. (2560). ได้ศึกษาการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 (การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
สมนึก พระนาค. (2564). การศึกษาปัญหาการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอุทัยธานี. วารสารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 4(3), 13-22.
สานนท์ สุขจรูญ (2564) ได้ศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ปัญหาการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า, 8(1), 65-73
สำนักทดสอบทางการศึกษา. (2563). แนวทางการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561. กรุงเทพ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.เอ.รัตนะ เทรดดิ้ง.
สำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2562). การประเมินความโดดเด่นเฉพาะทาง (Challenging Standards). กรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2563) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพ: สำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา.
อัจฉรา สังข์สุวรรณ์. (2564). การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: เทพรัตน์เพรส.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
