คำเรียกบุคคลในการแสดงหมอลำเรื่องต่อกลอนที่สะท้อนสังคมวัฒนธรรมอีสานสู่ความเป็นสมัยใหม่
คำสำคัญ:
คำเรียกขาน, หมอลำเรื่องต่อกลอน, สังคมวัฒนธรรมอีสาน, ความเป็นสมัยใหม่บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของคำเรียกบุคคลที่สะท้อนความเป็นสมัยใหม่ในการแสดงหมอลำเรื่องต่อกลอน พร้อมทั้งตีความนัยเชิงสังคมวัฒนธรรมที่สะท้อนผ่านคำเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง โดยมุ่งหวังเพื่อทำความเข้าใจพลวัตการเปลี่ยนแปลงของสังคมอีสานในยุคโลกาภิวัตน์ที่กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลภาคสนามจากการแสดงหมอลำเรื่องต่อกลอน จำนวนทั้งสิ้น 10 เรื่อง โดยคัดเลือกจากคณะหมอลำ 5 คณะ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความหลากหลายและครอบคลุมบริบทการแสดงในปัจจุบันผล
การวิจัยพบคำเรียกบุคคลสมัยใหม่ 67 คำ แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก 1) กลุ่มที่สะท้อนอิทธิพลภายนอกและโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนไป เช่น บริบทองค์กร อาชีพเฉพาะทาง และสถานะทางเศรษฐกิจที่ยึดโยงกับทุนนิยม และ 2) กลุ่มที่เกิดจากการสร้างตัวตนและนิยามความสัมพันธ์ใหม่ ซึ่งสะท้อนอิทธิพลข้ามวัฒนธรรม อัตลักษณ์ทางเพศที่ซับซ้อน และวัฒนธรรมแฟนคลับ (Fandom) สรุปได้ว่าคำเรียกบุคคลในหมอลำทำหน้าที่เป็นดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญ สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของสังคมอีสานจากจารีตประเพณีสู่สังคมเมืองที่ให้คุณค่ากับความสำเร็จทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังแสดงถึงการเปิดรับโลกาภิวัตน์ผ่านการนิยามอัตลักษณ์และความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ ทั้งมิติทางเพศที่เปิดกว้าง และความสัมพันธ์แบบศิลปินกับแฟนคลับ ข้อค้นพบนี้ยืนยันว่า หมอลำไม่ใช่เพียงการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม แต่เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ซึ่งปรับตัวและนำเสนอภาพแทนของสังคมอีสานร่วมสมัยได้อย่างทรงพลัง
เอกสารอ้างอิง
กฤษณา รักษาสัตย์. (2558). ภาษาศาสตร์เบื้องต้น. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
กุลวดี มกราภิรมย์. (2545). การเปลี่ยนแปลงการใช้คำเรียกบุคคลและคำสรรพนามในภาษาไทย. วารสารอักษรศาสตร์, 31(2), 114-141.
คุณาพร เกิดมงคล. (2554). การพัฒนาคู่มือการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างมนุษยสัมพันธ์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต], มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
ประจักษ์ วรจักร. (2550). สังคมวิทยาเบื้องต้น. ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พระครูโอภาสนนทกิตติ์, & พระครูวิมลสุวรรณกร. (2565). พลวัตสังคมเชิงพุทธบูรณาการ: ศึกษากรณีสังคมไทย. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 7(1), 41-52.
พระไกรสร ศรีรีภพ. (2565). อนาคตท้องถิ่นไทยที่ไม่ใช่รัฐส่วนกลาง: บทปริทัศน์วรรณกรรมและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง. วารสารปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 7(1), 1-13.
เภา บุญเยี่ยม. (2558). การปรับตัวของคนเลี้ยงช้างบ้านตากลาง จังหวัดสุรินทร์ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร].
วิวัฒน์ ทองวาด. (2563). ภาษาถิ่นโคราช: การเปลี่ยนแปลงและการอนุรักษ์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 7(2), 115-130.
ศิราพร ณ ถลาง. (2556). พลวัตของคติชนในยุคโลกาภิวัตน์. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
สมศักดิ์ ศรีสันติสุข. (2550). อัตลักษณ์กลุ่มชาติพันธุ์ ระบบความเชื่อ และวิถีชีวิตวัฒนธรรม.สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุรดา (สุมาลัย) กาลวิบูลย์. (2565). พุทธศาสนากับความเชื่อในสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลง. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(1), 263-274.
สุรพล สุวรรณ. (2558). พลวัตความสัมพันธ์เชิงอำนาจของสถาบันบ้าน-วัด-โรงเรียน ในสังคมไทย. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 11(2), 29-54.
อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2545). ภาษาในสังคมไทย: ความหลากหลาย การเปลี่ยนแปลง และการพัฒนา. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัญชลี สิงห์น้อย. (2550). การศึกษาการใช้คำเรียกบุคคลขานในภาษาไทย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 26(2), 111-122.
Brown, P., & Levinson, S. C. (1987). Politeness: Some universals in language usage. Cambridge University Press.
Giddens, A. (1990). The consequences of modernity. Stanford University Press.
Inglehart, R. (1990). Culture shift in advanced industrial society. Princeton University Press.
Komin, S. (1990). Culture and work-related values in Thai organizations. International Journal of Psychology, 25(3-6), 681-704.
Moore, W. E. (1968). Social change. Prentice-Hall.
Smelser, N. J. (1966). The sociology of economic life. Prentice-Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
