ความเสมอภาคของคู่ความในคดีอาญากรณีอัยการสูงสุดรับรองฎีกาของพนักงานอัยการ ในคดีค้ามนุษย์: บทวิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 7/2567

Main Article Content

อุทัย อาทิเวช

บทคัดย่อ

หลักการแห่งความเสมอภาคของบุคคลและหลักการห้ามการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากสถานะของบุคคลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมในคดีอาญา การที่พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 มาตรา 45 วรรคสี่ ให้อำนาจแก่อัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาของพนักงานอัยการว่ามีเหตุอันควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัย ให้ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญและให้ศาลฎีการับฎีกา โดยมิได้บัญญัติให้สิทธิดังกล่าวแก่จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีอาญาอีกฝ่ายหนึ่งด้วยนั้น ทำให้มีประเด็นปัญหาเข้าสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า บทบัญญัติของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 มาตรา 45 วรรคสี่ ขัดหรือแย้งต่อต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่งและวรรคสาม ซี่งรับรองหลักความเสมอภาคของบุคคลและห้ามการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากสถานะของบุคคลหรือไม่ บทความนี้จึงได้วิเคราะห์สถานะของคู่ความในคดีอาญา โดยเฉพาะสถานะของพนักงานอัยการซึ่งเป็นประเด็นแห่งการวินิจฉัย และทำการเปรียบเทียบกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของประเทศไทยและฝรั่งเศสเพื่อให้เห็นว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 7/2567 มีความชอบด้วยหลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองไว้หรือไม่ อย่างไร

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อาทิเวช อ. (2025). ความเสมอภาคของคู่ความในคดีอาญากรณีอัยการสูงสุดรับรองฎีกาของพนักงานอัยการ ในคดีค้ามนุษย์: บทวิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 7/2567 . วารสารศาลรัฐธรรมนูญ, 27(1), 163–182. สืบค้น จาก https://so15.tci-thaijo.org/index.php/OCC/article/view/2763
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ