การสื่อสารแบบปากต่อปากผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความไว้วางใจ ที่มีผลต่อความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในสถานการณ์โควิด-19 ของนักท่องเที่ยวชาวจีน

ผู้แต่ง

  • XIE JIAXIN สาขาวิชาการจัดการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
  • ธนกร สิริสุคันธา สาขาวิชาการจัดการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

คำสำคัญ:

การสื่อสารแบบปากต่อปาก, สื่ออิเล็กทรอนิกส์, นักท่องเที่ยวชาวจีน

บทคัดย่อ

การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของการสื่อสารแบบปากต่อปาก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ความไว้วางใจและความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของ นักท่องเที่ยวชาวจีน และ (2) เพื่อศึกษาผลกระทบของการสื่อสารแบบปากต่อปากผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความ ไว้ใจที่มีต่อความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของนักท่องเที่ยวชาวจีน กลุ่มตัวอย่าง คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งชายและหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และอาศัยอยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 385 คน เครื่องมือ คือ แบบสอบถามแบบออนไลน์ โดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) แบบ Enter

            ผลการศึกษาพบว่า (1) ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระดับความคิดเห็นของการสื่อสารแบบปากต่อปาก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ความไว้วางใจ และความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนเห็นด้วยกับการตั้งโพสต์เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประเทศไทยผ่าน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และไว้วางใจในมาตรการควบคุมความปลอดภัยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย และ (2) การสื่อสารแบบปากต่อปากผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความไว้วางใจมีผลกระทบต่อความตั้งใจในการมา ท่องเที่ยวประเทศไทยในสถานการณ์โควิด-19 ของนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

เอกสารอ้างอิง

Cheung, C. M. K., Chiu, P.-Y. & Lee, M. K. O. (2011). Online social networks: Why do students use Facebook? . Computers in Human Behavior, 27(4).

Jalilvand, M. R., Esfahani, S. S. & Samiei, N. (2011). Electronic word-of-mouth: Challenges and opportunities. Procedia Computer Science, 3.

Luhman, N. (1979). Trust and power: Two works by Niklas Luhman. New York: John Wiley & Sons.

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา. (2564). สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเดือนพฤศจิกายน 2564. [Online] Available HTTP: http://mots.go.th [2564, ธันวาคม 25].

ไทยรัฐออนไลน์. (2564). ปลื้ม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” สร้างรายได้ เผยนายกฯ สั่งพลิกโฉมสู่ระดับโลก. [Online] Available HTTP: http://thairath.co.th [2564, ตุลาคม 2].

บัญญัติพิลา. (2560). แรงจูงใจในการเดินทาง ความน่าเชื่อถือของข้อมูล การสื่อสารปากต่อปากแบบออนไลน์ ทัศนคติในการเดินทาง และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจอิเล็กทรอนิกส์ (E-decision) เพื่อเลือกแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยของผู้บริโภคในจังหวัดสระบุรี. การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

ปภัสสา ศักดิ์ศิริกุล. (2563). อิทธิพลของการสื่อสารแบบปากต่อปาก (WOM) บนสื่อสังคมออนไลน์และความ ไว้วางใจที่มีผลต่อความตั้งใจท่องเที่ยวในประเทศไทยในยุคโควิด-19 ระลอก 3 ของประชาชนในเขต กรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระปริญญานิเทศศาสตร มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

พิศุทธิ์ อุปถัมภ์. (2557). ความไว้วางใจและลักษณะธุรกิจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ส่งผลต่อความตั้งใจซื้อสินค้า ผ่านสื่อสังคมออนไลน์. การค้นคว้าอิสระปริญญานิเทศศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. ไพศาล วรคำ. (2558). การวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 5). มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.

รัศมิ์ลภัส วรเดชธนันกุล. (2558). ความไว้วางใจ การสื่อสารแบบปากต่อปากเชิงบวกและการรับรู้ถึงประโยชน์ ที่มีผลต่อความตั้งใจซื้อแพ็กเกจทัวร์ผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยว ของผู้บริโภคในจังหวัดระยอง. การค้นคว้าอิสระ ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

อัครวัฒน์ ทรัพย์มณีสมชัย. (2562). การสื่อสารแบบปากต่อปากทางอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประสมทางการตลาดที่มีต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวในประเทศไทยของกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย. การค้นคว้าอิสระ ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-30

รูปแบบการอ้างอิง

JIAXIN, X., & สิริสุคันธา ธ. . (2022). การสื่อสารแบบปากต่อปากผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความไว้วางใจ ที่มีผลต่อความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในสถานการณ์โควิด-19 ของนักท่องเที่ยวชาวจีน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 10(3), 134–141. สืบค้น จาก https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jhssrlpru/article/view/2711

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย