การพัฒนาศักยภาพการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมของไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและที่มาของปัญหาการพัฒนาศักยภาพการแก้ไขมลพิษฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมของไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพการแก้ไขมลพิษฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมของไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์และ 3) เพื่อเสนอแนะปัจจัยและแนวทางการพัฒนาศักยภาพการแก้ไขมลพิษฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมของไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ประชากรที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถาม
ผลการวิจัยพบว่า
น้ำหนักเฉลี่ยด้านศักยภาพทั้ง 3 ด้านเท่ากับ 3.12 ค่า S.D. เท่ากับ 0.93 แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก ในขณะที่ด้านความรู้และด้านความสามารถเป็นด้านที่มีน้ำหนักเฉลี่ยสูงที่สุด 2 อันดับแรกแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก ในขณะเดียวกันด้านทัศนคติมีน้ำหนักเฉลี่ยต่ำที่สุดซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง
น้ำหนักเฉลี่ยด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง 3 ด้านเท่ากับ 3.10 ค่า S.D. เท่ากับ 0.91 แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ด้านการส่งเสริมและด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นด้านที่มีน้ำหนักเฉลี่ยสูงที่สุด 2 อันดับแรกแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมากและระดับปานกลาง ในขณะเดียวกันด้านการป้องกันมีน้ำหนักเฉลี่ยต่ำที่สุดซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง
ระดับการพัฒนาศักยภาพการแก้ไขมลพิษฝุ่นละอองที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมีน้ำหนักเฉลี่ยทั้ง 5 ด้าน เท่ากับ 3.14 ค่า S.D. เท่ากับ 0.92 แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก ในขณะที่ด้านการลดผลกระทบมีน้ำหนักเฉลี่ยสูงที่สุดแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือด้านการดูแลรักษาแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก ด้านการขับเคลื่อนแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก และด้านการนำไปใช้ประโยชน์แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ ส่วนด้านคุณภาพมีน้ำหนักเฉลี่ยต่ำที่สุดซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
References
กรกนก ธนตฤณชาติ และชวนชื่น อัคคะวณิชชา. (2565). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของพนักงานในบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 5(3), 1238-1251.
กัลยา วานิชย์บัญชา.(2560). การวิเคราะห์สถิติชั้นสูงด้วย SPSS for Window (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: สามลดา.
ณัฐกุล ภูกลาง. (2562). การพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปในมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (รายงานการวิจัย). มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ธนาภรณ์ บุญทอง. (2561). การพัฒนาศักยภาพในการทางานของบุคลากร : กรณีศึกษา กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ธัศฐ์ชาพัฒน์ ยุกตานนท์. (2562). พุทธจริยศาสตร์: ทางเลือกของการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร., 6(ฉบับพิเศษ), 624-634.
ธัศฐ์ชาพัฒน์ ยุกตานนท์. (2565). กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยพุทธสันติวิธี ของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต).มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ธัศฐ์ชาพัฒน์ ยุกตานนท์. (2565). การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ของเชื้อไวรัส COVID-19. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร., 10(2), 509-522.
ปภาภรณ์ ไชยหาญชาญชัย และคณะ. (2564). ใส่ใจใช่ว่าสำคัญ: ปัจจัยด้านจิตวิทยาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม. วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา. 14(2). 69-92.
DOH กรมอานามัย. (2565). ประชากรทะเบียนราษฎร์ จำแนกรายเพศ ปีงบประมาณ 2565. สืบค้นเมื่อ 12 มิถุนายน 2565, จาก http://dashboard.anamai.moph.go.th/population/pop-all/changwat?year=2022&cw=46
Yamane, T. (1973).Statistics: An Introductory Analysis. 3rdEd. New York: Harper and Row Publications.