Development Of Learning Innovations In The Subject Of Scientists Using Inquiry Cycle And Game Wattungheang School Chonburi

Authors

  • ์Ntapat Worapongpat Ntapat Worapongpat 3170600484
  • Thana Yothachai
  • Chutima Phonrai
  • Suthida Chaichana

Keywords:

learning innovation Science and technology subjects, cyclical learning management, knowledge inquiry (5E) combined with the use of games

Abstract

The objectives of this classroom action research are 1. To develop learning innovations in science and technology subjects. By organizing learning using the cycle of inquiry (5E) together with the use of games. 2. To compare the learning achievement before and after learning by using the learning cycle of inquiry (5E) together with the use of games. 3. To study student satisfaction with the inquiry-based learning cycle (5E) combined with the use of games. It is quantitative research. Target groups used in research I am a grade 5 student at Wat Thung Hiang School. Chonburi Province, Semester 1, academic year 2023, 1 classroom, 30 people, which was obtained by purposive sampling. The tools used in the research include 1. Conformity assessment form for the development of learning innovations in science and technology subjects. 2. Pre-study test - after study 3. Satisfaction assessment form Statistics used in data analysis include percentage, mean, and standard deviation.

            The research results found that Learning management is based on the inquiry cycle (5E) combined with the use of games. About the water cycle Grade 5 developed with the efficiency of 84.29/85.57 results of using innovations Academic achievement of students studying with the inquiry-based learning management model (5E) combined with the use of games. The academic performance after studying was higher than before studying at 12.14 points, standard deviation of 0.28, resulting in students being more interested in learning. Able to use knowledge gained from study in gaming activities. Make the students answer the questions correctly. and had increased academic achievement in science subjects.

Author Biography

์Ntapat Worapongpat, Ntapat Worapongpat

Nonthaburi

References

กนกรัตน์ วุฒิวิชาภรณ์. (2555). ผลการใช้สื่อมัลติมีเดียร่วมกับวิธีเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยา สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนทวารวดี จังหวัดนครปฐม (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร:

โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรรณิการ์ กวางคีรี. (2557). การพัฒนาการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจที่คงทน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ที่จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

กัญญาณี ใบเนียม และ มะยูโซ๊ะ กูโน. (2558). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนประเภทเกมการศึกษาเรื่องตารางธาตุ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

กุณฑรี เพ็ชรทวีพรเดช และคณะ. (2557). สุดยอดวิธีสอนวิทยาศาสตร์ นำไปสู่การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์.

คำศักดิ์ พิชญานุรัตน์. (2551). การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนรูปแบบสืบเสาะหาความรู้(วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต).ขอนแก่น:มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ดวงจันทร์ แก้วกงพาน. (2557). การใช้เกมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3(วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ทิศนา แขมมณี (2556). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธีรวัฒน์ ดวงใจดี. (2556). การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต).กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ผ่องศรี กองสิงห์. (2556). รายงานการพัฒนาเกมวิทยาศาสตร์ที่ใช้เสริมในการจัดการเรียนรู้ แบบกระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องสารและสมบัติของสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม(รายงานผลการวิจัย).เชียงราย.

รอฮานิง เจ๊ะดอเล๊าะ. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ทักษะการบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของนักเรียนในสังคมพหุวัฒนธรรม(วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). ปัตตานี:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี.

รุ่งอรุณ กันเหตุ. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และเจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมทางวิทยาศาสตร์(วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.

วิดาด หะยีตาเฮร์. (2556). ผลของรูปแบบการเรียนการสอนแบบวัฏจักจรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความสามารถในการแก้ปัญหา และเจตคติต่อการเรียนวิชาเคมีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในสังคมพหุวัฒนธรรม(วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

วิไลวรรณ จิตร์แสวง. (2557). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบสืบพันธุ์ โดยการใช้เกม ประกอบการสอนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2552(รายงานผลการวิจัย). นครราชสีมา.

ศิริพิมล หงส์เหม. (2556). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และคุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร:มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.สาขาชีววิทยา (สสวท.). (2558). รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนากระบวนการคิดระดับสูง วิชาชีววิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย.หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์พัฒนาวิชาการ.

อังคณา ลังกาวงศ์. (2557). ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยเสริมเกมวิทยาศาสตร์(วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่:มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

Downloads

Published

29-04-2024

How to Cite

Worapongpat ์., Yothachai, T. ., Phonrai, C. ., & Chaichana, S. . (2024). Development Of Learning Innovations In The Subject Of Scientists Using Inquiry Cycle And Game Wattungheang School Chonburi . Journal of Graduate Studies Chaiyaphum Review, 2(1), 34–47. retrieved from https://so15.tci-thaijo.org/index.php/JGCR/article/view/527

Issue

Section

Research article