วารสารนวัตกรรมการจัดการและบริหารธุรกิจ https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal <p><strong>วารสารนวัตกรรมการจัดการและบริหารธุรกิจ<br />Journal of Innovative Management and Business Administration (JIMBA)<br />ISSN</strong> : 3027-8139 (Online)</p> <p><strong>กำหนดออก</strong> : 2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน และฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม<br /><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong> : วารสารฯ มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความวิจัย บทความวิชาการ และบทความปริทัศน์ ในกลุ่มสังคมศาสตร์ สาขาต่าง ๆ ได้แก่ ด้านบริหารธุรกิจ การจัดการ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ การท่องเที่ยวและการบริการ นิเทศศาสตร์ เทคโนโลยีสื่อสารมวลชน การตลาด คอมพิวเตอร์ธุรกิจ โลจิสติกส์และซัพพลายเชน และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> th-TH <p>บทความนี้ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย </p> <p>เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ใน วารสารนวัตกรรมการจัดการและบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง กองบรรณาธิการวารสารไม่มีส่วนในความคิดเห็นและความรับผิดชอบใดที่เกี่ยวข้องกับบทความดังกล่าว</p> charinya.wan@lru.ac.th (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชรินทร์ญา หวังวัชรกุล) fms.lru2561@gmail.com (นางสาวอัญชิสา ปัดสำราญ) Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเพชรเจริญ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1256 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพชรเจริญ ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย 2) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ ของ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพชรเจริญ ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วยระบบจัดการเนื้อหา WordPress ร่วมกับระบบฐานข้อมูล MySQL และแบบประเมินความพึงพอใจ กลุ่มตัวอย่างได้จากการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างในกรณีทราบจำนวนประชากร จากประชากรในเขตรับผิดชอบ 11,170 คน ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ความคลาดเคลื่อน 5% ได้กลุ่มตัวอย่าง 386 คน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า พบว่า เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยผู้ใช้งาน 2 ส่วน โดยแบ่งเป็น ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งานทั่วไป โดยมีฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ 1) เข้าสู่ระบบ 2) จัดการข้อมูลส่วนตัว 3) จัดการข้อมูลข่าวสาร <br />4) จัดการข้อมูลบุคลากร 5) จัดการข้อมูลสุขภาพ 6) จัดการข้อมูลการติดต่อ 7) จัดการประเภทข่าวสาร โดยผลการประเมินสำหรับผู้ใช้งานมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.35 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.12 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านคุณภาพของเนื้อหา อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.40 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.64 รองลงมาได้แก่ ด้านการออกแบบและจัดรูปแบบเว็บไซต์ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.34 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.65 และด้านประสิทธิภาพของระบบเว็บไซต์ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.30 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.85 ตามลำดับ</p> ศักดิ์ศิริ วิธิ, อาริยา สมบูรณ์พันธ์, แพรวพลอย เทียมสอาด, ณิชนันทน์ กะวิวังสกุล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1256 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการจัดทำบัญชีที่เหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบัญชี ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจังหวัดนครพนม https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1627 <p>วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหาและอุปสรรค ระดับการปฏิบัติ และรูปแบบการจัดทำบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจังหวัดนครพนม และ 2) เพื่อระบุแนวทางการจัดทำบัญชีที่เหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารจังหวัดนครพนม การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธี กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณ ได้แก่ สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหาร 12 กลุ่ม ในจังหวัดนครพนม จำนวน 256 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วนและการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ส่วนกลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพ ได้แก่ ผู้จัดทำบัญชีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มละ 2 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 24 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบัญชี จำนวน 12 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์<br />กึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนเชิงคุณภาพเป็นการวิเคราะห์เนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า สภาพการจัดทำบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ 1) มีการจัดทำบัญชีของทุกกลุ่ม 2) เหรัญญิกของทุกกลุ่มเป็นผู้จัดทำบัญชี และ 3) ลักษณะการบันทึกบัญชีด้วยมือ ปัญหาและอุปสรรคการจัดทำบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ ความไม่รู้ทางด้านบัญชี การไม่ให้ความสำคัญของการบันทึกบัญชี และการไม่เห็นประโยชน์ของข้อมูลที่ได้รับจากการบันทึกบัญชี โดยมีระดับการปฏิบัติในการจัดทำบัญชีอยู่ในระดับมาก ส่วนแนวทางการจัดทำบัญชีที่เหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบัญชีประกอบด้วย 1) ด้านความรู้ความสามารถ ซึ่งผู้จัดทำบัญชีควรศึกษาความรู้และทำความเข้าใจก่อนการลงมือปฏิบัติจริงตามรายการที่กำหนด 2) ด้านเอกสารและวิธีการทางบัญชี ซึ่งผู้จัดทำบัญชีควรศึกษาเอกสารและวิธีการที่ถูกต้องจากผู้มีประสบการณ์เสมอ 3) ด้านความร่วมมือและการประสานงาน ซึ่งผู้จัดทำบัญชีควรอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายและมีการประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง 4) ด้านเครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ซึ่งผู้จัดทำบัญชีควรมีความสามารถในการใช้เครื่องมือหรือระบบสารสนเทศทางการบัญชีเพื่อลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ</p> ปรางทิพย์ เสยกระโทก, ธงชัย สิทธิกรณ์, พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1627 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 ทัศนคติต่อสุขภาพและการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ เบเกอรี่เพื่อสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1638 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์และอิทธิพลทัศนคติต่อสุขภาพ และปัจจัยทางสังคมการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงกับการตัดสินใจซื้อเบเกอรี่เพื่อสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริโภคเบเกอรี่เพื่อสุขภาพ ที่ตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 385 คน ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก (Convenience Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามผ่าน Google form วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานประกอบด้วย การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์แบบถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า ทัศนคติต่อสุขภาพและการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตัดสินใจซื้อเบเกอรี่เพื่อสุขภาพอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .001 โดยเฉพาะทัศนคติด้านสุขภาพมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุด นอกจากนี้ พบว่าโมเดลสามารถพยากรณ์การตัดสินใจซื้อได้ร้อยละ 78.3 (R² = .783) สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและได้รับอิทธิพลจากกลุ่มอ้างอิง เช่น อินฟลูเอนเซอร์และสื่อออนไลน์ ซึ่งมีบทบาทต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในยุคดิจิทัล</p> ฟาดีล๊ะ แลมันเส็น, อริสรา คมจริง, ปาริชาติ ผาสุกสถิตพร, ชยุดา รอดวินิจ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1638 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาปัญหาการดำเนินงานสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การให้บริการลูกค้า พื้นที่ศึกษาสาขาในสังกัดเขตชลบุรี https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/2089 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลต่อการดำเนินงานด้านการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาในสังกัดเขตชลบุรี 2) ศึกษาปัจจัยด้านพฤติกรรมลูกค้าและคุณภาพการให้บริการที่มีผลต่อการตัดสินใจขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย และ 3) เสนอแนวทางเพิ่มยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาในสังกัดเขตชลบุรี ใช้รูปแบบผสมผสาน ในส่วนของการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาในสังกัดเขตชลบุรี เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกึ่งโครงสร้างกับผู้บริหารและพนักงานสินเชื่อจำนวน 5 คน และนำผลมาวิเคราะห์ด้วยแผนผังก้างปลา และการวิเคราะห์องค์กรทั้งภายในภายนอกร่วมกับทาวส์เมตริก เพื่อหาแนวทางเชิงกลยุทธ์</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ด้านปัญหาการดำเนินงาน ได้แก่ บุคลากร ซึ่งขาดความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์สินเชื่อ มีภาระงานมาก และขาดทักษะการให้คำปรึกษาที่ชัดเจน วิธีการและขั้นตอน ซึ่งมีความซับซ้อนหลายชั้น ตรวจสอบเอกสารล่าช้า และไม่มีระบบติดตามสถานะสินเชื่อแบบเรียลไทม์ และสภาพแวดล้อม ซึ่งรวมถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย คู่แข่งจากธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการรวดเร็วกว่า และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเน้นช่องทางออนไลน์ 2) ด้านปัจจัยเชิงพฤติกรรมและคุณภาพการบริการ พบว่า ทั้งปัจจัยด้านพฤติกรรมผู้กู้ และปัจจัยด้านคุณภาพการให้บริการ ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจขอสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยค่า R² ต่ำมาก แสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่ศึกษานั้นไม่สามารถอธิบายพฤติกรรมการตัดสินใจได้อย่างเพียงพอ และ 3) ด้านแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่เสนอแนะ ได้แก่ ประการที่หนึ่งการยกระดับบุคลากรให้สามารถทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษาทางการเงิน” โดยให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์สินเชื่อและพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่างมืออาชีพ ประการที่สองการพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้ครอบคลุมการยื่นขอสินเชื่อและการติดตามผลแบบเรียลไทม์ และประการที่สามการปรับลดขั้นตอนภายในเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความโปร่งใสในการให้บริการ</p> ศิริเพ็ญ ภู่ทอง, รัชดา ธูปทอง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/2089 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภาคเหนือตอนบน https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/2088 <p>การวิจัยครั้งนี้นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยแรงจูงใจ ปัจจัยการรับรู้การสนับสนุนขององค์การ และปัจจัยการทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภาคเหนือตอนบน ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภาคเหนือตอนบน จำนวน 410 คน ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่า เท่ากับ 0.984 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ ปัจจัยแรงจูงใจ (β = 1.364, p &lt; 0.05) ปัจจัยการรับรู้การสนับสนุนขององค์การ (β = 0.345, p &lt; 0.05) และปัจจัยการทำงานเป็นทีม (β = -0.735, p &lt; 0.05) ปัจจัยทุกตัวให้ค่าสัมประสิทธิ์สหพันธ์พหุคูณ (R<sup>2</sup>) = 0.977 และสามารถรวมอธิบายความแปรผันของการตัดสินใจใช้บริการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้ร้อยละ 97.7 (R²=0.977)</p> สิริวรรณ ธีระภาพ, โสภิดา วระนิล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/2088 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700 21st Century Entrepreneurship Challenges, Opportunities, and Growth in case of Thailand https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1460 <p>Thailand has become one of the fastest-growing marketing platforms in the business market. In the 21<sup>st</sup> century, entrepreneurship has undergone a significant transformation, particularly in its digital aspects, characterized by diverse innovations, a global vision, and a strong emphasis on social and environmental responsibility. Technologies such as AI, cloud computing, IoT, blockchain, the metaverse, biotech, and renewable energy have become central to entrepreneurial success in this era, challenging traditional business models. Globalization facilitates international access, diverse talent acquisition, and collaborative opportunities, all of which significantly benefit entrepreneurs. 21<sup>st </sup>century business leaders prioritize their societal and environmental impact. Agility and rapid adaptation are crucial for meeting evolving market demands. Access to capital remains a challenge, but crowdfunding, angel investors, venture capital, and blockchain-based fundraising are expanding opportunities. Regulatory environments are adapting to the disruptive potential of modern entrepreneurship. Beyond traditional business, 21<sup>st</sup> century entrepreneurs are shaping job markets, redefining work, and encouraging adaptability and entrepreneurial thinking. This paper examines the skills of 21<sup>st </sup>century entrepreneurs in terms of challenges, opportunities, and growth strategies, enabling them to develop their workplaces and align with the country’s development guidelines.</p> Phongsak Phakamach, Akera Ratchavieng, Prangthip Soeykrathoke; Pot Toopot ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/jimba_journal/article/view/1460 Tue, 11 Nov 2025 00:00:00 +0700