วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru <p>วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชกำหนดออก : 2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน และฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม<br /><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong> : วารสารฯ มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์ประยุกต์ (ศิลปศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ บริหารธุรกิจ นิเทศศาสตร์ การจัดการสารสนเทศ ครุศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ การจัดการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และสาขา อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง)</p> Graduate NSTRU (บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช) th-TH วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2985-1009 ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/200 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์และ 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4 จำแนกตาม ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดสถานศึกษา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรีเขต 4 จำนวน 264 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิตามขนาดสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบ มาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.67-1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4 โดยภาพรวมและรายด้านมีภาวะผู้นำอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการทำงานเป็นทีม ด้านการมีความคิดสร้างสรรค์ ด้านการมีความยืดหยุ่นและปรับตัว ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล และด้านการมีวิสัยทัศน์ 2) การเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4 จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน และจำแนกตามขนาดสถานศึกษา ในภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน</p> ฑิฆัมภรณ์ บำรุงเขต Copyright (c) 2024 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-12-25 2024-12-25 2 2 1 13 การดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐาน การอาชีวศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดราชบุรี https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/345 <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน และ <br>2) เปรียบเทียบการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดราชบุรี จำแนกตามขนาดสถานศึกษา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอนในสถานศึกษาสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดราชบุรี จำนวน 243 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิตามขนาดสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการวิจัย พบว่า 1) การดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดราชบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน เรียงตามจากมากไปน้อย คือ ด้านการจัดการอาชีวศึกษา ด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และด้านคุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาที่พึงประสงค์ 2) การเปรียบเทียบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดราชบุรี จำแนกตามขนาดสถานศึกษา ในภาพรวมและรายด้านทุกด้าน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยครูในสถานศึกษาขนาดเล็กมีการปฏิบัติมากกว่าสถานศึกษาขนาดใหญ่</p> จิราภา พรมทุ่ง Copyright (c) 2024 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-12-25 2024-12-25 2 2 14 28 แนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาสำหรับสถานพินิจ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/344 <p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และ 2) ศึกษาแนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา สำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บุคลากรในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 จำนวน 150 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ตามเขตท้องที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 และผู้ให้ข้อมูลสำคัญการสนทนากลุ่ม จำนวน 8 คน โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารแบบมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้านพบว่า มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการวางแผน ด้านการตัดสินใจ ด้านการดำเนินงาน ด้านการติดตามและประเมินผล และด้านการร่วมในผลประโยชน์ และ 2) แนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เขต 2 มีดังนี้ 2.1) ด้านการวางแผน ควรมีการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของบุคลากรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อร่วมกันวางแผนและกำหนดวิธีดำเนินการจัดการศึกษา 2.2) ด้านการตัดสินใจ ควรให้บุคลากรร่วมรับทราบและเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในการจัดการศึกษา เพื่อนำไปกำหนดจุดประสงค์หรือเป้าหมายในการจัดการศึกษา และร่วมกำหนดและลำดับความต้องการ เพื่อจะได้ตัดสินใจเลือกนโยบายหรือแนวทางการแก้ปัญหาในการจัดการศึกษาได้อย่างเหมาะสม 2.3) ด้านการดำเนินงาน ผู้บริหารและบุคลากรของสถานพินิจฯและหน่วยงานภายนอกควรให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในการระดมทรัพยากรการจัดการศึกษา ร่วมเป็นที่ปรึกษาและดำเนินการจัดการศึกษา เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ 2.4) ด้านการร่วมในผลประโยชน์ ควรให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ร่วมกัน และ 2.5) ด้านการติดตามและประเมินผล ควรให้บุคลากรรับรู้ถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานการจัดการศึกษา ตลอดจนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นจากการประเมินผลการจัดการศึกษา เพื่อจะได้วิเคราะห์ว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และควรร่วมมือกับผู้ปกครองในการนิเทศ กำกับ ติดตาม ควบคุม ดูแล เด็กและเยาวชนเมื่อถูกปล่อยตัวไปแล้ว</p> วิทย์ธวัช กุลเพชรจิตรา Copyright (c) 2024 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-12-25 2024-12-25 2 2 29 43