วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru
<p>วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชกำหนดออก : 2 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน และฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม<br /><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong> : วารสารฯ มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์ประยุกต์ (ศิลปศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ บริหารธุรกิจ นิเทศศาสตร์ การจัดการสารสนเทศ ครุศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ การจัดการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และสาขา อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง)</p>
Graduate NSTRU (บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช)
th-TH
วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
2985-1009
-
ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานบุคคลกับการปฏิบัติงานของ ครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กาญจนบุรี เขต 2
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/411
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา 2) การปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานบุคคลกับการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครูในสถานศึกษา จำนวน 276 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ตามพื้นที่จัดการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้านพบว่า มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการส่งเสริม วินัย คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้านการดำเนินการทางวินัย และการลงโทษด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้านการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ และด้านการสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง 2) การปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน ด้านการปฏิบัติหน้าที่ครู และด้านการจัดการเรียนรู้ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานบุคคลกับการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 พบว่า ในภาพรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกอยู่ในระดับสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p>
ชยานันต์ พรมแดง
มิตภาณี พุ่มกล่อม
Copyright (c) 2025 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-30
2025-06-30
3 1
-
การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารเรือ
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/761
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล และ 2) เปรียบเทียบการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารเรือ จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารเรือ จำนวน 110 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ ตามประเภทสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว และการทดสอบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับ คือ ด้านหลักประสิทธิผล ด้านหลักการตอบสนอง ด้านหลักความเสมอภาค และด้านหลักคุณธรรมจริยธรรม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับ คือ ด้านหลักความเปิดเผย โปร่งใส ด้านหลักการมีส่วนร่วม การพยายามแสวงหาฉันทามติ ด้านหลักประสิทธิภาพ ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักภาระรับผิดชอบ สามารถตรวจสอบได้ และด้านหลักการกระจายอำนาจ 2) การเปรียบเทียบการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารเรือ จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน ในภาพรวมและรายด้านทุกด้านไม่แตกต่างกัน</p>
ฤทธิไกร หลายเจริญ
พาที เกฤศธนากร
Copyright (c) 2025 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-30
2025-06-30
3 1
-
แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/gsjnstru/article/view/324
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและ 2) เปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 จำแนกตามเพศ และประสบการณ์การทำงานของข้าราชการครู ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ ข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 จำนวน 274 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ตามขนาดสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา 1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบแบบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีของของเชฟเฟ่ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ระดับมากที่สุด คือ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน สำหรับการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ย คือ ด้านความสำเร็จของงาน ด้านสภาพการทำงาน ด้านความรับผิดชอบ ด้านโอกาสก้าวหน้าในอนาคต ด้านนโยบายและการบริหารงาน ด้านลักษณะของงาน ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน และด้านความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา 2) การเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2 จำแนกตามเพศ โดยภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านนโยบายและการบริหารงาน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยข้าราชการครูเพศหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานมากกว่าข้าราชการครูเพศชาย และจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยภาพรวมและรายด้านทุกด้าน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยที่ภาพรวม ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา และด้านสภาพการทำงาน ข้าราชการครูที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี มีการปฏิบัติมากกว่าข้าราชการครูที่มีประสบการณ์การทำงานน้อยกว่า 5-10 ปี และน้อยกว่า 5 ปี สำหรับด้านความสำเร็จของงาน ด้านลักษณะของงาน ด้านความรับผิดชอบ ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน ด้านโอกาสก้าวหน้าในอนาคต ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และด้านนโยบายและการบริหารงาน ข้าราชการครูที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี มีการปฏิบัติมากกว่าข้าราชการครูที่มีประสบการณ์การทำงานน้อยกว่า 5 ปี</p>
ศรชัย ไชยวุฒิ
พงษ์ศักดิ์ รวมชมรัตน์
Copyright (c) 2025 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-06-30
2025-06-30
3 1