การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโครงสร้างระดับยอดร่วมกับกิจกรรมโคลซ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโครงสร้างระดับยอดร่วมกับกิจกรรมโคลซระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโครงสร้างระดับยอดร่วมกับกิจกรรมโคลซระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8 โรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงสร้างระดับยอดจำนวน 4 แผน 2) แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ
และ 3) แบบทดสอบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที ดำเนินการทดลอง รวมทั้งสิ้น 12 คาบ ผลการวิจัยพบว่า
1) ความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโครงสร้างระดับยอดร่วมกับกิจกรรมโคลซหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) ความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโครงสร้างระดับยอดร่วมกับกิจกรรมโคลซหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
ธารทิพย์ พานเพ็ชร. (2564). การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ DR-TA กับจัดการเรียนรู้แบบ KWL Plus สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. การบริหารและนิเทศการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 13(1), 89- 99.
พงษ์พันธ์ พงษ์โสภา. (2543). หลักการเบื้องต้นของทฤษฎีการบำบัดตามแนวเกสตัลท์ (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา.
มนทิรา มะลิทอง. (2559). การสอนด้วยกลวิธีการตั้งคำถามด้วยตนเองและการใช้โครงสร้างระดับยอดที่มีต่อการพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
รสสุคนธ์ สิงห์เสนา. (2559). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้การสอนด้วยโครงสร้างระดับยอดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ลัดดา แต้มพิมาย, ภัทราพร เกษสังข์ และ นฤมล ศักดิ์ปกรณ์กานต์. (2562). การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านม่วง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 17(78), 114-124.
แวววัน มนูธาราม. (2564). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สถาบันภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). คู่มือการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ตามกรอบมาตรฐานความสามารถทาง ภาษาอังกฤษที่เป็นสากล ระดับมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สายสุนีย์ เติมสินสุข. (2564). นวัตกรรมการเรียนการสอน: อ่าน-เขียนภาษาอังกฤษ ระดับอนุเฉท.นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
สุพรรณษา ศรประเสริฐ. (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอ่านภาษาอังกฤษตามทฤษฎีโครงสร้างความรู้และแนวคิดการสอนแบบแลกเปลี่ยนบทบาทระหว่างครูกับนักเรียน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุภัทรา อักษรานุเคราะห์. (2532). การสอนทักษะทางภาษาและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสาวลักษณ์ รัตนวิชช์. (2531). เอกสารคำสอนหลักสูตรและการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: ประยูรวงศ์.
Blachowicz, C. (1977). Cloze Activities for Primary Readers. The Reading Teacher, 31(3), 300-302.
Celik, M. (2019). Teaching English as a foreign language. Ankara: Pegem Akademi.
Fitzgerald, J., & Shanahan, T. (2000). Reading and writing relations and their development. Educational Psychologist, 35(1), 39–50.
Harley, T. A. (2014). The psychology of language: From data to theory (4th ed). London: Psychology Press.
Jinajai, N., & Rattanavich, S. (2015). The Effects of Computer-Assisted Instruction Based on Top-Level Structure Method in English Reading and Writing Abilities of Thai EFL Students. English Language Teaching, 8(11), 231–244.
Kintsch, W., & van Dijk, T. A. (1978). Toward a model of text comprehension and production. Psychological Review, 85(5), 363–394.
Köhler, W. (1929). Gestalt psychology. New York: Liveright.
Kusfitriyatna, F., Evenddy, S. S., & Utomo, D. W. (2021). The effect of using cloze passage technique toward students’ reading comprehension in narrative text. Journal of English Language Learning (JELL), 5(1), 49–62.
Meyer, B. J. (1987). Following the author’s top-level organization: An important skill for reading comprehension. Understanding readers’ understanding: Theory and practice, pp. 59-76.
Morris, A. & Dore, N. A. (1989). Learning to Lean from Text: Effective Reading in the Content Areas. (4th ed.). Singapore: Wesley Publishing.
Oller, J. W., Jr. (1979). Language tests at school: A pragmatic approach. New York: Longman.
Pema. (2014). The effects of top-level structure instruction on grade eight Bhutanese students'reading comprehension and written synthesis (Master's thesis). Rangsit University.
Primawati, D. A., & Handayani, S. (2020). The use of cloze procedure to improve students' reading comprehension. Journal of Al-Farahidi's Arts, 13(47), 479-494.
Rumelhart, D. E. (1980). Schemata: The building blocks of cognition. In R. J. Spiro, B. C. Bruce, & W. F. Brewer (Eds.), Theoretical issues in reading comprehension (pp. 33–58). Lawrence Erlbaum Associates.
Taylor, W. L. (1953). "Cloze procedure": A new tool for measuring readability. Journalism Quarterly, 30(4), 415–433.
Wahyuni, S. (2014). Peningkatan kemampuan membaca teks deskriptif dalam bahasa Inggris dengan menggunakan sistematis cloze prosedur untuk siswa kelas XSMA Islam Al-Falah Kabupaten Aceh Besar. Visipena Journal, 5(2), 14–24.
Wertheimer, M. (1923). Untersuchungen zur Lehre von der Gestalt II. Psychologische Forschung, 4(1), 301–350.