วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid
<p>Print ISSN : 2985-2242 Online ISSN : 2985-2250 </p> <p>กำหนดออก : 3 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม และฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม</p> <p>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์ : วารสารฯ มีนโยบายรับตีพิมพ์บทความในด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม ด้านทรัพยากรมนุษย์ ด้านการบริหารจัดการองค์กรในภาครัฐและเอกชน และด้านอุตสาหกรรมสัมพันธ์</p>
Faculty of Business and Industrial Development, King Mongkut's University of Technology North Bangkok.
th-TH
วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
2985-2242
-
บทบรรณาธิการ
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/2250
<p>-</p>
ศุภกร เจริญประสิทธิ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
-
การพัฒนารูปแบบศักยภาพการบริหารของผู้ประกอบการเพื่อความสำเร็จในธุรกิจสุขภาพความงาม
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/816
<p>การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อศึกษาองค์ประกอบสำคัญของรูปแบบศักยภาพการบริหารของผู้ประกอบการเพื่อความสำเร็จในธุรกิจสุขภาพความงาม และจัดทำคู่มือแนวทางการพัฒนาศักยภาพการบริหารของผู้ประกอบการเพื่อความสำเร็จในธุรกิจสุขภาพความงาม ดำเนินการวิจัยด้วยเทคนิคเดลฟาย โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 21 คน และการประชุมสนทนากลุ่มโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และแบบประเมินรูปแบบและคู่มือ ใช้วิธีวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน ฐานนิยม และค่าพิสัยระหว่างควอร์ไทล์ ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบสำคัญของรูปแบบศักยภาพการบริหารของผู้ประกอบการเพื่อความสำเร็จในธุรกิจสุขภาพความงามมี 4 มิติ 10 องค์ประกอบหลัก 25 และองค์ประกอบย่อย มิติที่ 1: การบริหารธุรกิจ มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.1) การดำเนินธุรกิจ คือ การแข่งขันเชิงธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง และระบบการบริหาร 1.2) งบประมาณการเงิน คือ การจัดการเงินทุน และการจัดสรรงบประมาณ 1.3) จรรยาบรรณ คือ จรรยาบรรณธุรกิจ และธรรมาภิบาล มิติที่ 2: การบริหารบุคลากร มี 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 2.1) การจัดการบุคลากร คือ การคัดสรรบุคลากร การจัดสรรกำลังคน และการพัฒนาศักยภาพ 2.2) การสร้างแรงจูงใจ คือ การสร้างสมดุลการทำงาน และบรรยากาศในการทำงาน มิติที่ 3: การบริหารการตลาด มี องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 3.1) การบริการทางการแพทย์ คือ ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ และมาตรฐานความปลอดภัย 3.2) การส่งเสริมการตลาด คือ ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์และการบริการ กฎหมายและกฎระเบียบทางการตลาด มิติที่ 4: การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 4.1) การสื่อสารกับลูกค้า คือ ปฏิสัมพันธ์ และการประเมินความต้องการของลูกค้า 4.2) มนุษยสัมพันธ์ คือ การรับฟังข้อมูล และการให้คำปรึกษา 4.3) จริยธรรม คือ ความโปร่งใส และมาตรฐานการบริการ รูปแบบและคู่มือแนวทางการพัฒนาศักยภาพการบริหารของผู้ประกอบการเพื่อความสำเร็จในธุรกิจสุขภาพความงามได้รับการรับความเห็นชอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ด้วยมติ<br />เป็นเอกฉันท์ในความเหมาะสมที่จะนำประยุกต์ใช้ในระดับมาก</p>
กีรติ จงแจ่มฟ้า
สุภัททา ปิณฑะแพทย์
ธีรวุฒิ บุณยโสภณ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
1
15
-
การพัฒนารูปแบบศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/860
<p>การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล 2) พัฒนารูปแบบศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้ายุคดิจิทัล และ3) จัดทำคู่มือแนวทางการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล ใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสาน ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ 1) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 8 คน ได้แก่ ผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านรถยนต์ไฟฟ้า 2) กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมสนทนากลุ่ม จำนวน 15 คน ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และ 3) กลุ่มตัวอย่างในการตอบแบบสอบถาม จำนวน 187 คน ได้แก่ ผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ โดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูป ผลการวิจัย พบว่าองค์ประกอบหลักของศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1. ด้านความรู้ (Knowledge) มี 4 องค์ประกอบรอง คือ 1.1 ความรู้ด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ 1.2 ความรู้ด้านการจัดการทางการเงิน 1.3 ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลรถยนต์ไฟฟ้า และ1.4 ความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ 2. ด้านทักษะ (Skills)มี 4 ประกอบรอง คือ 2.1 ทักษะด้านการจัดการในยุคดิจิทัล 2.2 ทักษะด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค 2.3 ทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร และ 2.4 ทักษะด้านภาษาต่างประเทศ และ 3. ด้านคุณลักษณะเฉพาะ (Attributes) มี 3 องค์ประกอบรองคือ 3.1 พฤติกรรมการปฏิบัติงาน 3.2 การจัดการความสัมพันธ์ และ 3.3 การพัฒนาตนเอง โดยมีผลการประเมินรูปแบบจากการประชุมสนทนากลุ่มโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 15 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่ารูปแบบการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัลมีความเหมาะสม และคู่มือแนวทางการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน มีความคิดเห็นสอดคล้องกันทั้งหมด เห็นว่าคู่มือมีความเหมาะสม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง</p>
ประสิทธิ์พร เก่งทอง
สมนึก วิสุทธิแพทย์
ชาญชัย ทองประสิทธิ์
มนัส ชูผกา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
16
29
-
การจัดการพัสดุคงคลังวัตถุดิบประกอบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ประเภทคอนโดมิเนียม
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1148
<p>ปัจจุบันการผลิตเฟอร์นิเจอร์คอนโด ของบริษัทกรณีศึกษา มีนโยบายให้แผนกผลิตมีหน้าที่รับผิดชอบพัสดุคงคลังสำหรับการประกอบ (Fitting) โดยปัญหาพัสดุในส่วนของสายการผลิตเป็นคลังเปิดขาดการกำหนดวิธีการและผู้ควบคุมดูแลนอกจากนี้ยังพบพัสดุคงคลังหลายชนิดที่ไม่มีการแบ่งกลุ่มและกำหนดปริมาณการจัดเก็บ โดยงานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเสนอแนวทางป้องกันการขาดแคลนพัสดุที่สำคัญและเพื่อลดต้นทุนในการบริหารจัดการพัสดุคงคลังงานบริษัทการศึกษาเริ่มจากการเก็บข้อมูลพัสดุคงคลัง รวมทั้งหมด 92 รายการ จึงทำการคัดแยกพัสดุด้วยทฤษฎี 5ส ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญโดยใช้ 2 หลักเกณฑ์ในการสะสางหลักเกณฑ์แรกคือพัสดุที่ใช้งานได้และพัสดุที่ไม่สามารถใช้งานได้ทำให้พัสดุจาก 92 รายการเหลือพัสดุที่ใช้งานได้จำนวน 51 รายการหลังการคัดแยกพัสดุที่มีการเปลี่ยนรุ่นการใช้งานไปแล้วคงเหลือพัสดุจำนวน 21 รายการจากนั้นจึงทำการจำแนกพัสดุทั้ง 21 รายการโดย (ABC Analysis) จากความต้องการในการเบิกใช้ในระยะเวลา 1 ปี และ (VED Analysis) จากการพิจารณาตามความสำคัญ จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์ ดูความสัมพันธ์ความต้องการในการเบิกใช้และความสำคัญของพัสดุและกำหนดนโยบายการควบคุม ผลการดำเนินการพบว่าพัสดุสามารถกำหนดนโยบายการสั่งซื้อใหม่ด้วยการนำระบบปริมาณสูงสุด-ต่ำสุด (Max-Min) ให้กับพัสดุแบบ VB ได้ (พัสดุที่มีความสำคัญมากและความต้องการปานกลาง) และลดต้นทุนการจัดการพัสดุลงได้ร้อยละ 25 ซึ่งช่วยป้องกันการขาดแคลนพัสดุและลดต้นทุนในการจัดการพัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p>
จามร วสุรัตน์มณี
อธิพันธ์ ลอยเมืองกลาง
อัคร เสมรบุณย์
ทรงวิทย์ ศรีจันทร์รักษ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
30
43
-
การพัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์กรในลักษณะของเว็บไซต์คณะบริหารธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการ
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1213
<p>การวิจัยนี้จัดทำเพื่อ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์กรในลักษณะของเว็บไซต์ 2) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ 3) บริการนักศึกษาและบุคลากร การพัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์กรในลักษณะเว็บไซต์คณะบริหารธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการ 1) เว็บไซต์พัฒนาโดย Google Site 2) แบบประเมินคุณภาพ 3) แบบประเมินความพึงพอใจ วิธีการดำเนินการ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์กรในลักษณะของเว็บไซต์โดย Google Site 2) ประเมินคุณภาพเว็บไซต์โดยวิธีเฉพาะเจาะจงประกอบด้วยผู้บริหารและบุคลากร รวม 10 คน ผลประเมินคุณภาพอยู่ในระดับมาก พบว่า ด้านข้อมูลและการใช้ประโยชน์ มีระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.80 ด้านข้อมูลคณะ มีระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.60 ด้านประสิทธิภาพการเข้าใช้งาน มีระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.30 ด้านความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน มีระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.30 ด้านการออกแบบเว็บไซต์ มีระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.30 3) ประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ ประกอบด้วยบุคลากรคณะ นักศึกษา และบุคคลภายนอก รวม 138 คน พบว่า ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถาม อยู่ในระดับมากที่สุดค่าเฉลี่ย 4.40 ด้านประโยชน์และการนำไปใช้ มีระดับมากที่สุดค่าเฉลี่ย 4.45 ด้านเนื้อหาและข้อมูล มีระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.40 ด้านการออกแบบและจัดรูปแบบ มีระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.36 สรุปได้ว่า การพัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์กรในลักษณะเว็บไซต์คณะบริหารธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการ ที่พัฒนาสามารถนำมาทดแทนเว็บไซต์เดิม ทั้งนี้นักศึกษา บุคลากร และบุคคลภายนอก สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p>
ณภัทร ศรีปราชญ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
44
56
-
การศึกษาความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1620
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยความพร้อมในการจัดการ และปัจจัยความพร้อมในการเปลี่ยนผ่าน ที่ส่งผลต่อพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้เป็นตัวแทนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย ที่มีระดับตั้งแต่หัวหน้างานขึ้นไป มีประสบการณ์ทำงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปจำนวน 266 รายพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 188 คน (ร้อยละ 70.70) มีช่วงอายุ 41 - 50 ปี จำนวน 125 คน (ร้อยละ 47.00) มีตำแหน่งระดับผู้จัดการ จำนวน 114 คน (ร้อยละ 42.90) และมีระดับการศึกษาปริญญาโท จำนวน 219 คน (ร้อยละ 82.30) เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับที่ 3 จำนวน 111 คน (ร้อยละ 41.70) มีจำนวนพนักงานมากกว่า 200 คน จำนวน 112 คน (ร้อยละ 42.10) มีทุนจดทะเบียนน้อยกว่า 50 ล้านบาท จำนวน 98 คน (ร้อยละ 36.80) และมีระยะเวลาดำเนินธุรกิจมากกว่า 15 ปี จำนวน 168 คน (ร้อยละ 63.20) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยความพร้อมในการจัดการ และปัจจัยความพร้อมในการเปลี่ยนผ่าน ทั้ง 11 ปัจจัย สามารถร่วมกันอธิบายการเปลี่ยนแปลงของ ความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยภาพรวม ได้ร้อยละ 85.7 (Adjusted R2 = .857) โดยมีด้านเครื่องจักรอุปกรณ์ และด้านความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่าน ส่งผลต่อความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในภาพรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และด้านวัตถุดิบ ด้านการปรับตัวต่อสถานการณ์ และด้านการควบคุมการเปลี่ยนผ่าน ส่งผลต่อความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในภาพรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) เมื่อพิจารณาการส่งผลของตัวแปรอิสระที่มีต่อความพร้อมในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เรียงตามลำดับอิทธิพลได้ดังนี้ ด้านความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่าน มีอิทธิพลมากที่สุด (Beta = .338) รองลงมา ได้แก่ ด้านเครื่องจักรอุปกรณ์ มี (Beta = .142) รองลงมา ได้แก่ ด้านการปรับตัวต่อสถานการณ์ (Beta = .116) และน้อยที่สุด ด้านการจัดการความรู้และนวัตกรรม (Beta = .004)</p>
ศักดิ์สิทธิ์ ประสาทแก้ว
เกียรติชัย วีระญาณนนท์
พิศมัย จารุจิตติพันธ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
57
67
-
อิทธิพลของการเผยแพร่ข้อมูลและลักษณะของบุคคลผู้เผยแพร่ข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ต่อความไว้วางใจของลูกค้าแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลี
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1601
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะการเผยแพร่ข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม Tiktok ลักษณะของบุคคลผู้เผยแพร่ข้อมูล และความไว้วางใจของลูกค้าที่ใช้เครื่องสำอางค์แบรนด์เกาหลี (2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของลักษณะการเผยแพร่ข้อมูล ลักษณะของบุคคลเผยแพร่ข้อมูล ส่งผลต่อความไว้วางใจของลูกค้าที่ใช้เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริโภคที่เคยซื้อ สินค้าเครื่องสำอางค์แบรนด์เกาหลีผ่านการเผยแพร่ข้อมูลบนแพลตฟอร์ม Tiktok จำนวน 400 ตัวอย่าง ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐาน ด้วยสถิติถดถอยแบบพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า (1) ลักษณะการเผยแพร่ข้อมูลแพลตฟอร์ม Tiktok และลักษณะของบุคคลเผยแพร่ข้อมูลแพลตฟอร์ม Tiktok ผู้บริโภคมีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่งผลกับความไว้วางใจของลูกค้าที่ใช้เครื่องสำอางค์เกาหลี (2) ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่าทั้งลักษณะของการเผยแพร่ข้อมูลแพลตฟอร์ม Tiktok ได้แก่ ด้านความบันเทิง ด้านปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ด้านการตอบสนอง และลักษณะของบุคคลเผยแพร่ข้อมูลแพลตฟอร์ม Tiktok ได้แก่ ด้านความน่าเชื่อถือ ด้านความเชี่ยวชาญ และด้านความน่าดึงดูด ส่งผลความไว้วางใจของลูกค้าแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลี ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย แบรนด์เครื่องสำอางบน TikTok ควรสร้างเนื้อหาสนุก โต้ตอบกับลูกค้าตอบสนองรวดเร็ว ให้ข้อมูลโปร่งใส ใช้อินฟลูเอนเซอร์ผู้เชี่ยวชาญ และนำเสนออย่างน่าดึงดูด และการตอบสนองที่การตอบสนองควรมีลักษณะเป็นธรรมชาติและตรงประเด็น ไม่เกินความจำเป็นหรือซ้ำซ้อน เพราะการตอบสนองที่มากเกินไปอาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่มั่นใจในความจริงใจของแบรนด์ ซึ่งอาจส่งผลให้ความไว้วางใจลดลง</p>
สุภาภรณ์ ทองสังสุข
จันทร์เพ็ญ วรรณารักษ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
68
82
-
นวัตกรรมการบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน PEA Volta ของผู้ใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในเขตพื้นที่ภาคกลาง
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1672
<p>ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมสู่การใช้พลังงานสะอาดและลดการปลกปล่อยมลพิษสู่สังคม การพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในรูปแบบของดิจิทัล คือแอปพลิเคชัน PEA Volta การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับนวัตกรรมการบริการ และการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน PEA Volta ของผู้ใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในเขตพื้นที่ภาคกลาง และเพื่อศึกษานวัตกรรมการบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน PEA Volta ของผู้ใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในเขตพื้นที่ภาคกลาง งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากตัวอย่าง จำนวน 384 คน โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณด้วยวิธี Enter ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 20 – 30 ปี มีระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี เป็นนักเรียน/นักศึกษา ส่วนระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับนวัตกรรมการบริการของผู้ใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคกลางโดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ด้านกระบวนการ ด้านเทคโนโลยี และด้านสภาพแวดล้อม ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน PEA Volta อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และด้านข้อมูลสารสนเทศ ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชัน PEA Volta ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปใช้เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาการให้บริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการตัดสินใจใช้บริการแอปพลิเคชัน PEA Volta</p>
สาวิตรี มะลิพุ่ม
วสุธิดา นุริตมนต์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
83
97
-
ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานองค์กรธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/Journalbid/article/view/1738
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงาน และ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานในองค์กรธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ พนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กรธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ประเภทห้างสรรพสินค้า ในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จำนวน 202 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าความสัมพันธ์ของเพียร์สัน พบว่า 1) พนักงานมีความพึงพอใจคุณภาพชีวิตในการทำงานอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ลักษณะงานมีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมโดยตรง ความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน โดยส่วนรวม ลักษณะงานที่ตั้งอยู่บนฐานของกฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรม ลักษณะงานมีส่วนส่งเสริมด้านบูรณาการทางสังคมของผู้ปฏิบัติงาน สิ่งแวดล้อมที่ถูกลักษณะและปลอดภัย ค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานได้พัฒนาความรู้ความสามารถได้เป็นอย่างดี ลักษณะงานที่ส่งเสริมความเจริญเติบโตและความมั่นคงให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน และ 2) ภาวะผู้นำในองค์การ ได้แก่ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ภาวะผู้นำการแลกเปลี่ยน และภาวะผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานในองค์กรธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ โดยความสัมพันธ์มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ทุกด้าน</p>
พรรษพร ตั้งศิริเสถียร
มนัญชยา ประทุม
วัศยา หวังพลายเจริญสุข
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-29
2025-08-29
5 2
98
112