วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL
<table width="865"> <tbody> <tr> <td colspan="9" width="865"><strong>วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต</strong></td> </tr> <tr> <td colspan="9">ISSN: 3027-883X (Online)</td> </tr> <tr> <td colspan="9"> </td> </tr> <tr> <td colspan="9"><strong>กำหนดออก</strong></td> </tr> <tr> <td colspan="9">ตีพิมพ์เผยแพร่ปีละ 3 ฉบับ ราย 4 เดือน ในรูปแบบออนไลน์ดังนี้</td> </tr> <tr> <td colspan="9">ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน (Volume 1: January – April)</td> </tr> <tr> <td colspan="9">ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม (Volume 2: May – August)</td> </tr> <tr> <td colspan="9">ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม (Volume 3: September – December) </td> </tr> <tr> <td colspan="9"> </td> </tr> <tr> <td colspan="9"><strong>นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์</strong></td> </tr> <tr> <td colspan="9">วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตมีนโยบายรับตีพิมพ์บทความที่มีคุณภาพในด้านสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ </td> </tr> <tr> <td colspan="9">ศึกษาศาสตร์ วิทยาการจัดการ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ เกษตรศาสตร์และสหกรณ์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ </td> </tr> <tr> <td colspan="9">วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การอาหาร วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และวิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ </td> </tr> <tr> <td colspan="9">โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คณาจารย์ นักศึกษา และนักวิจัย ตลอดจนผู้สนใจที่จะศึกษาค้นคว้า หรือเผยแพร่บทความ</td> </tr> <tr> <td colspan="9"> </td> </tr> <tr> <td colspan="9"><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></td> </tr> <tr> <td colspan="9">ไม่เสียค่าใช้จ่าย</td> </tr> </tbody> </table>
สำนักบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
th-TH
วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
3027-883X
-
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง การบวกการลบเศษส่วนและจำนวนคละโดยใช้เทคนิคร่วมมือ STAD ร่วมกับแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1429
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกการลบเศษส่วนและจำนวนคละ โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค Student Teams Achievement Division (STAD) cooperative learning ร่วมกับแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 75 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกการลบเศษส่วนและจำนวนคละ โดยการจัด การเรียนรู้โดยใช้เทคนิค STAD cooperative learning ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5</p> <p> การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยลงมือปฏิบัติการสอนด้วยตนเอง ดําเนินงานเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการทางสถิติกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติสอบค่าที</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกการลบเศษส่วนและจำนวนคละ โดยใช้เทคนิค STAD cooperative learning ร่วมกับแบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นไปตามเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกการลบเศษส่วนและจำนวนคละ โดยใช้เทคนิค STAD cooperative learning ร่วมกับแบบฝึกทักษะ หลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05</p>
กชกร ดวงภักดี
สุวรรณวัฒน์ เทียนยุทธกุล
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-10
2025-03-10
2 1
44
52
-
การพัฒนาสมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบร่วมกับกิจกรรมแฮกกาธอน
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1389
<p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย และ 2) เปรียบเทียบสมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบร่วมกับกิจกรรมแฮกกาธอนในโครงการ TESOL Hackathon Thailand</p> <p> การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ประกอบด้วยครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมจำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) หลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ 2) แบบทดสอบสมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษา โดยผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยอยู่ในระดับปานกลาง และ 2) สมรรถนะด้านความรู้ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยหลังเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอยู่ในระดับมากและสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01</p>
สหรัฐ ลักษณะสุต
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-13
2025-03-13
2 1
53
68
-
ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1312
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบรรยากาศองค์การของสถานศึกษา 2) ศึกษาการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 306 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 28 คน ครูผู้สอน จำนวน 278 คน ซึ่งได้จากกำหนดกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน และวิธีการได้มาของกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามบรรยากาศองค์การกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 รวมทั้งหมด 54 ข้อ มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation) ผลการวิจัยพบว่า 1) การศึกษาบรรยากาศองค์การของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความอบอุ่นและด้านการสนับสนุน อยู่ในระดับมาก รองลงมา คือ ด้านการติดต่อสื่อสารภายในองค์การ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 2) การศึกษาการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ รองลงมา คือ ด้านเทคโนโลยีสนับสนุนการเรียนรู้ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม 3) ความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศองค์การและการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 โดยรวมและรายด้าน มีความสัมพันธ์กันทางบวก อยู่ในระดับความสัมพันธ์กันระดับสูง (r = 0.900**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01</p>
หทัยทิพย์ ดีอุต
สำราญ มีแจ้ง
สถิรพร เชาวน์ชัย
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-13
2025-03-13
2 1
69
84
-
บทบรรณาธิการ
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1593
ศรชัย สินสุวรรณ
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-10
2025-03-10
2 1
-
การคิดเชิงออกแบบ: การจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1317
<p> บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ซึ่งผู้เขียนได้ศึกษาเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมากำหนดเป็นกรอบแนวคิดและใช้การจัดการเรียนรู้ สะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ในบทความนี้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้และกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการคิดเชิงออกแบบ ภายใต้แนวคิดความเป็นพลเมืองและแนวคิดความเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือนวัตกร โดยนำเสนอกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนที่ประยุกต์ใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ 7 ขั้นตอน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมของผู้เรียนด้วยการคิดเชิงออกแบบ 5 ขั้นตอน บนฐานของมโนทัศน์แบบพหุทรรศน์ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมของผู้เรียนที่เชื่อมโยงกับบริบทเชิงพื้นที่ มวลประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายสำหรับผู้เรียน</p>
พรหมพิริยะ ถ้อยคำ
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-10
2025-03-10
2 1
5
15
-
การปรับปรุงบทบาทภารกิจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1209
<p> บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปรับปรุงบทบาทภารกิจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยทำการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) คู่มือแนวทางการแบ่งส่วนราชการภายในกรมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ 2) กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พ.ศ. 2551 และ 3) คำชี้แจงประกอบ การแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมาที่ได้มีปัญหาและความต้องการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมากในเรื่องของการบริหารงาน ประกอบกับภาระงานที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายรัฐบาล แผนการกระจายอำนาจ และกฎหมายใหม่ที่ส่งผลให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมีภารกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภารกิจในการส่งเสริมด้านสารณสุขและการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อีกทั้งพลวัตทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จึงต้องมีการปรับปรุงบทบาทภารกิจให้เท่าทันกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงแปลงไปในอนาคต</p> <p> ผลการศึกษาพบว่า การทบทวนและปรับบทบาท ภารกิจ หน้าที่อำนาจ และโครงสร้างหน่วยงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีบทบาทมุ่งเน้นการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มากกว่าการส่งเสริมการปกครององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่มุ่งดำเนินการกำกับ ดูแล และสนับสนุนการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างคล่องตัวและครอบคลุมในมิติต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมิติด้านการบริหารจัดการบริการสาธารณะด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมให้สามารถตอบสนองต่อการดำเนินงานตามภารกิจในเชิงนโยบายและความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความชัดเจนและมีความเชื่อมโยงในการปฏิบัติงาน โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นศูนย์กลางในการกำหนดมาตรฐานและแนวทางการดำเนินงานให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถแปลงนโยบายด้านดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติในท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งสอดรับกับบทบาทภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564</p>
ศิวกร คุณาวัน
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-10
2025-03-10
2 1
16
27
-
แนวคิดชาตินิยมในเเบบเรียนประวัติศาสตร์ไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรเเกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/GSLL/article/view/1236
<p> บทความวิชาการ เรื่อง แนวคิดชาตินิยมในเเบบเรียนประวัติศาสตร์ไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรเเกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดชาตินิยมที่ปรากฎในแบบเรียนประวัติศาสตร์ไทย และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหากับแนวคิดชาตินิยมที่ปรากฎในแบบเรียนประวัติศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่ยึดเอากระบวนทัศน์การวิเคราะห์ข้อมูล การสัมภาษณ์เชิงลึก และการตีความข้อมูลจากเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า 1) แนวคิดชาตินิยมปรากฏในแบบเรียนประวัติศาสตร์ไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย จนถึงสมัยโกสินทร์ และพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของชาติไทย โดยเฉพาะการสะท้อนสถานะของพระมหากษัตริย์ ตามแนวคิดราชาชาตินิยม และประวัติศาสตร์เชื้อชาตินิยม ในลักษณะการเชิดชูความยิ่งใหญ่ของชาติที่มีเหนือกว่าประเทศอื่น ๆ รวมถึงการเป็นชาติเอกราชที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นจากลัทธิล่าอาณานิคม และ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาในแบบเรียนประวัติศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กับแนวคิดชาตินิยม จากการวิเคราะห์ปรากฏ 4 แนวคิด ได้แก่ แนวคิดชาตินิยมแนวเสรี แนวคิดชาตินิยมแนวอนุรักษ์ แนวคิดชาตินิยมขยายอำนาจ แนวคิดชาตินิยมต่อต้านการล่าอาณานิคม สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างค่านิยมความรักชาติ การปลูกฝังความคิด ความภาคภูมิใจให้กับผู้เรียน ผ่านการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติ ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยที่ส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ในศตวรรษที่ 21</p>
ภูมินทร์ เกณสาคู
สรายุธ รัศมี
Copyright (c) 2025 วารสารบัณฑิตศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-03-10
2025-03-10
2 1
28
43