https://so15.tci-thaijo.org/index.php/AJNP/issue/feed
วารสารทางวิชาการนาฬาคิรีปริทรรศน์
2025-12-23T21:40:49+07:00
พระมหามงคลกานต์ ฐิตธมฺโม, รศ.ดร.
mongkholkan1977@gmail.com
Open Journal Systems
<p><strong>วัตถุประสงค์</strong></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">1. เพื่อเป็นแหล่งตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิชาการ บทความวิจัย บทวิจารณ์หนังสือและบทความวิชาการประเภทอื่นๆ</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">2. เพื่อเป็นสื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงวิชาการของนักวิจัยและนักวิชาการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">3. เพื่อเป็นพื้นที่เสนอองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามนุษย์ตามหลักการศึกษา เชิงพระพุทธศาสนาและศาสตร์ต่างๆ</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">4. เพื่อพัฒนาวารสารให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาและเป็นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผลงานการวิจัยและบทความทางวิชาการทางพระพุทธศาสนา ปรัชญา ศาสนาและศาสตร์ต่างๆ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน TCI</span></p>
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/AJNP/article/view/2402
การแสดงตนเป็นพุทธมามกะในพระพุทธศาสนาเถรวาท
2025-11-13T13:34:44+07:00
พระวรวุฒิ วิสุทธิเมธี โอทอง
warawut19952538@G-mail.com
พระครูภาวนาวัฒนบัณฑิต วิ. พระครูภาวนาวัฒนบัณฑิต วิ.
poonsakkamol@gmail.com
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่อง พุทธมามกะ หมายถึง ผู้นับถือพระรัตนตรัยด้วยใจจริง และต้องปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้สักแต่ว่านับถือ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตนในฐานะเป็นชาวพุทธ และธรรมของพุทธมามกะมีอยู่ 5 ประการ คือ มีศรัทธา มีศีล ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรมไม่เชื่อมงคล ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกพระพุทธศาสนา และสนับสนุนพระพุทธศาสนา รวมถึงการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยอาการที่เคารพอย่างแท้จริง และการแสดงตนเป็นพุทธมามกะนั้น จะต้องประกาศเป็นคำพูดต่อหน้าพระสงฆ์ทั้ง 4 รูป เพื่อให้พระสงฆ์นั้นรับรู้ในการปฏิญาณตนต่อการนับถือพระพุทธศาสนาของบุคคลนั้น วิธีการแสดงตนเป็นพุทธมามกะนั้นส่วนมาก จะเป็นการจัดพิธีที่โรงเรียนนั้นๆ และได้นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาเพื่อเป็นประธานในพิธีการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ลำดับขั้นตอนอาจจะขอกล่าวโดยย่อ คือ ให้นักเรียนกราบพระพร้อมกัน รับศีลจากพระสงฆ์ ประธานนักเรียนนำกล่าวคำถวายตัวเป็นพุทธมามกะ และกราบพระสามครั้งแบบเบญจางคประดิษฐ์ พระสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา และพระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนาให้พร นักเรียนที่แสดงตนเป็นพุทธมามกะกรวดน้ำ รับพร เสร็จพิธี</p> <p> การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คือการเป็นผู้ถึงซึ่งพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันประเสริฐ และการกล่าวแสดงตนเช่นนี้ ย่อมจะมีบทสวดเพื่อเป็นการประกาศตนว่า ได้นับถือพระพุทธศาสนาแล้วในท่ามกลางพระสงฆ์ที่มาเป็นสักขีพยาน บทสวดที่นิยมสวดกัน มีดังนี้ เอเต (ชาย) เอตา (หญิง) มะยัง ภันเต สุจิระปรินิพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ พุทธมามกาติ (ชาย) พุทธมามิกาติ (หญิง) โน สังโฆ ธาเรตุ เมื่อทำพิธีเสร็จแล้ว ก็จะเป็นพุทธมามกะโดยสมบูรณ์แบบ</p>
2025-12-23T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารทางวิชาการนาฬาคิรีปริทรรศน์
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/AJNP/article/view/2405
ศึกษาการทำพลีกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท
2025-10-23T22:10:07+07:00
พระแดนชัย สุริยวํโส สุริยวงศ์
danchaid072@gmail.com
พระจาตุรงค์ ชูศรี
rong2553@yahoo.com
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการทำพลีกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท หมายถึง การสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน ด้วยการเสียสละทรัพย์เพื่อบูชาคุณ เป็นหลักธรรมเกี่ยวกับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยแบ่งออกเป็นสองประเภท คือการช่วยเหลือสงเคราะห์ และการบูชาคุณ ประกอบด้วย ญาติพลี คือการช่วยเหลือหมู่ญาติพี่น้อง ได้แก่ ญาติทางโลก และญาติทางธรรม อติถีพลี คือการต้อนรับแขก หรืออาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือน ด้วยการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปุพพเปตพลี คือการอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ ที่ล่วงลับไปแล้วด้วยการทำบุญให้ เรียกว่า ปัตติทานมัย คือบุญที่เกิดขึ้นจากการให้ทานแก่ผู้มีศีลบริสุทธิ์ ราชพลี คือการบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ ด้วยการเสียภาษีอากรให้แก่หลวง เทวตาพลี คือการอุทิศผลบุญให้แก่เทวดา เรียกว่า การบูชาเทวดา เมื่อเทวดาได้รับผลบุญที่อุทิศให้แล้ว ก็จะมาคุ้มครองเราให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป</p>
2025-12-23T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารทางวิชาการนาฬาคิรีปริทรรศน์
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/AJNP/article/view/2404
การศึกษาพิธีไหว้ครูในพระพุทธศาสนาเถรวาท
2025-12-03T10:41:16+07:00
พระแดนชัย สุริยวํโส สุริยวงศ์
danchaid072@gmail.com
<p>พิธีการไหว้ครูเป็นพิธีกรรมที่เป็นประเพณีของไทย ที่นิยมปฏิบัติมาแต่สมัยโบราณ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณของครู การไหว้ครูเป็นการแสดงตนว่า ขอเป็นศิษย์ของท่านโดยตรง อันเป็นการกล่าวระลึกถึงบุญคุณครู และขอความเป็นมงคลจากครูบาอาจารย์ โดยมักจัดพิธีไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสบดีในเดือนมิถุนายน พิธีไหว้ครูจะใช้ดอกไม้หลัก ๓ อย่าง ในการทำพานครูเพื่อระลึกถึงคุณครู ได้แก่ หญ้าแพรก คือเรียนได้เร็วเหมือนหญ้าแพรก ดอกเข็ม คือมีสติปัญญาเฉียบแหลม ดอกมะเขือ คือนักเรียนต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ข้าวตอก คือสัญลักษณ์ของความมีระเบียบ วันไหว้ครูเป็นวันที่มีการจัดพิธีไหว้ครูผู้ร่วมงาน คือครูบาอาจารย์ที่สอนนักเรียน ในปัจจุบันมาร่วมไหว้ครูเพื่อรำลึกถึงบูรพาจารย์ผู้ประสาทวิชาการให้ และพิธีไหว้ครูคือการที่ศิษย์แสดงความเคารพ ยอมรับนับถือครูบาอาจารย์ว่า ท่านเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ศิษย์ในฐานะผู้สืบทอดมรดกจึงพร้อมใจกันปวารณาตัว รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ ด้วยความวิริยะอุตสาหะ เพื่อให้บรรลุปลายทางแห่งการศึกษา การไหว้ครูเป็นธรรมเนียมอันดีงาม ที่มีส่วนโน้มน้าวจิตใจคนให้รักษาคุณความดี ช่วยธำรงรักษาวิทยาการให้สืบเนื่องต่อไป การที่ศิษย์แสดงความเคารพ ยอมรับนับถือครูตั้งแต่เบื้องต้น จึงมีส่วนทำให้ครูเกิดความรักความเมตตาต่อศิษย์ อยากมอบวิชาความรู้ให้อย่างเต็มที่ ศิษย์จึงมีความรู้สึกผูกพันใกล้ชิด เกิดมั่นใจว่าตนจะมีผู้คุ้มครอง สั่งสอนให้ไปสู่หนทางแห่งความดีงาม และความเจริญก้าวหน้าสืบไป</p>
2025-12-23T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารทางวิชาการนาฬาคิรีปริทรรศน์
https://so15.tci-thaijo.org/index.php/AJNP/article/view/2403
ศีลจุ่มในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
2025-12-16T14:59:44+07:00
พระแดนชัย สุริยวํโส สุริยวงศ์
danchaid072@gmail.com
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่อง ศีลจุ่มหรือศีลล้างบาปเป็นหนึ่งในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ พิธีศีลล้างบาปนี้เป็นพิธีกรรมที่สำคัญมาก ซึ่งพิธีนี้เป็นพิธีรับศาสนิกชนใหม่เข้ามาในศาสนาคริสต์ ชาวคริสต์ทุกคนเชื่อกันว่ามนุษย์ทุกคนมีบาปติดตัวมาแต่กำเนิด และการทำพิธีศีลล้างบาปนี้ จะช่วยทำให้บาปหายไปและกลับกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความดีและความบริสุทธิ์ บุคคลใดที่จะเข้ามานับถือศาสนาคริสต์ จะต้องทำพิธีศีลล้างบาปก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งพิธีนี้จะมีบาทหลวงเป็นผู้กระทำให้ โดยใช้น้ำเทราดลงบนศีรษะแล้วกล่าวคำว่า ข้าพเจ้าขอล้างท่านในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระจิตอันบริสุทธิ์ พิธีนี้กระทำได้ครั้งเดียวในชีวิต เมื่อเสร็จพิธีศีลล้างบาปแล้ว บุคคลนั้นก็จะเป็นศาสนิกชนของศาสนาคริสต์โดยสมบูรณ์แบบ</p> <p> การรับศีลจุ่มหรือศีลล้างบาป เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของศาสนาคริสต์ ที่นิยมทำสืบเนื่องกันมานานตั้งแต่สมัยคริตกาล โดยเชื่อว่าเป็นการล้างบาปที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ให้หมดไป เมื่อศาสนิกชนคนใดก็ตามที่ได้ผ่านพิธีการล้างบาปก็จะเป็นคนที่บริสุทธิ์ และได้เป็นศาสนิกชนของศาสนาคริสต์โดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งพิธีล้างบาปนี้กระทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต การรับศีลจุ่มหรือศีลล้างบาปนั้นบาทหลวงจะเป็นผู้ที่กระทำพิธีให้รวมทั้งยังกำหนดวันประกอบพิธีกรรมให้อีกด้วย พิธีศีลล้างบาปนี้จะใช้น้ำเป็นสัญลักษณ์ในการกระทำพิธี โดยบาทหลวงจะเทน้ำราดลงบนศีรษะของบุคคลนั้น พร้อมกับกล่าวเป็นคาถาว่า ข้าพเจ้าขอล้างท่านในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระจิต และการกระทำพิธีศีลล้างบาปนี้ สามารถกระทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาจจะกล่าวได้ว่า พิธีศีลล้างบาปนี้เป็นเสมือนประตูหน้าบ้านที่จะทำให้เราเข้าไปในห้องต่างๆ ภายในบ้านได้นั่นเอง</p> <p> บทที่ใช้สวดรับศีลจุ่มหรือศีลล้างบาปนั้น แต่ละนิกายของศาสนาคริสต์ก็จะมีบทสวดที่แตกต่างกันออกไป แต่บทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือบทที่มาจากพระวรสารของนักบุญมัทธิว ในการกล่าวถึงพระตรีเอกานุภาพ ความว่า In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit ซึ่งแปลว่า ข้าพเจ้าล้างท่านในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระจิต อันเป็นเครื่องหมายภายนอกที่มาจากความเชื่อภายใน แสดงให้เห็นถึงว่าเป็นการชำระหรือลบล้างบาปกำเนิด โดยอาศัยการช่วยให้รอดของพระเยซูคริสต์</p> <p> ผู้รับศีลจุ่มหรือศีลล้างบาปนั้น หลังจากได้ผ่านการรับศีลล้างบาปไปแล้ว ผู้นั้นจะต้องดำรงตนตามพระบัญญัติทั้ง 10 ประการ เป็นข้อปฏิบัติตนตามหลักสากลในศาสนาคริสต์ และจะต้องเป็นผู้มีจิตใจเมตตาโอบอ้อมอารีต่อบุคคลอื่น เช่น การรักเพื่อนบ้าน การบริจาคทาน การมีน้ำใจช่วยเหลือสังคม ตลอดจนถึงการมีจิตใจที่จงรักภักดีต่อพระเป็นเจ้าในศาสนาของตน และจะต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นศาสนิกชนที่ดีต่อศาสนาคริสต์อีกด้วย เมื่อผู้ที่รับศีลล้างบาปได้ปฏิบัติตนเช่นนี้แล้ว ย่อมชื่อว่าเป็นผู้เคารพในพระเยซูคริสต์เจ้าและชีวิตในโลกนี้จะเป็นชีวิตที่ดีงาม</p>
2025-12-23T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารทางวิชาการนาฬาคิรีปริทรรศน์